ชุดสืบสวนเปิดเบาะแสคดีเรือของกลางหาย มีขบวนการลอบนำออกจากท่า หวังเอาน้ำมันขาย

รองอธิบดีอัยการ ยืนยันอัยการสูงสุด รับคดีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ เป็นคดีนอกราชอาณาจักรแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมตั้งทีมพนักงานอัยการเข้าไปร่วมสอบสวนคดีร่วมกับพนักงานสอบสวนของตำรวจด้วย ขณะที่ล่าสุดมีเบาะแสว่า มีขบวนการลักลอบนำเรือออกไปจากท่า เป้าหมายสำคัญคือ ต้องการเอาน้ำมันเถื่อนกว่า 3 แสนลิตรออกไปขาย



นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ให้ข้อมูล ว่า คดีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนในช่วงวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา มีการจับกุมเรือทั้งหมด 5 ลำ มีผู้ต้องหาทั้งหมด 28 คน เป็นคนไทย 22 คน เมียนมา 3 คน ลาว 2 คน และกัมพูชา1คน โดยให้อัยการสูงสุด พิจารณา เพราะเป็นคดีนอกราชอาณาจักร และได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 ปอศ. เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมกับมีคำสั่งเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้มีพนักงานอัยการเข้าไปร่วมการสอบสวน 2 คน นัดหมายประชุมพนักงานสอบสวนไว้แล้ว คือวันที่ 18 มิถุนายนนี้ แต่เกิดเหตุการณ์เรือของกลางหายไปก่อนจำนวน 3 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานการติดตามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



ล่าสุด มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า ขบวนการนี้ได้วางแผนเพื่อต้องการจะเอาน้ำมันกว่า 3 แสนลิตรคืนไป โดยจะมีการขนถ่ายน้ำมันทั้งหมดออกไปที่บริเวณน่านน้ำสากลเพื่อไปขายต่อ ส่วนเรือคาดว่า จะปล่อยลอยลำไว้ก่อน หากคดีสิ้นสุดก็จะกลับไปประมูลคืนมา ได้ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า น้ำมันเถื่อนทั้งหมด เมื่อนำไปขายต่อได้ จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30ล้านบาท