สังคม
ภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์-คอนกรีตทั่วโลก ร่วมประชุม GCCA 2024 หารือแนวทางมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
4 มิ.ย. 2567
106 views
ประเทศไทยได้รับกรีนฟันด์ หรือ กองทุนสีเขียวจากแคนาดา จำนวน 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์ไทย ซึ่งเป็นความคืบหน้าต่อเนื่องจากการนำเสนอผ่านเวทีประชุม COP28 ครั้งที่ผ่านมาที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยครั้งนี้สมาคมคมอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตโลก GCCA ได้เลือกประเทศไทยสำหรับการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำด้านอุตสาหกรรมในครั้งนี้เพื่อหารือแนวทางมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำร่วมกัน
การประชุมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ครั้งที่ 6 หรือ GCCA 2024 จัดขึ้นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียที่ประเทศไทย โดยมีสมาชิกกว่า 30 ประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วม ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลิตซีเมนต์ทั่วโลก เพื่อให้กลุ่มผู้ผลิตได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกัน ตามเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วน เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก
งานนี้ประเทศไทยได้นำเสนอโร้ดแมปฉบับล่าสุดปี 2020 ในการมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ให้ได้ภายในปี 2050 ผ่านการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 ในรูปแบบของนวัตกรรมต่างๆ เช่น การพัฒนาวัสดุทดแทนปูนเม็ด และนาโนเทคโนโลยีเพื่อให้ปูนซีเมนต์มีคุณสมบัติดีขึ้น ลดการปล่อยและกักเก็บคาร์บอนตั้งแต่กระบวนการผลิต รวมทั้งเปลี่ยนผ่านพลังงานหลักจากถ่านหินเป็นพลังงานเชื้อเพลิงจากชีวมวลและขยะ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 9 – 12 ล้านตัน ต่อปี โดย นายชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย TCMA ระบุว่า แผนงานนี้ได้มีการพัฒนาต่อเนื่อง และ ผ่านการพูดคุยตลอดการประชุมโลกร้อน หรือ COP ตั้งแต่ครั้งที่ 26 เป็นต้นมา จนกระทั่งครั้งล่าสุดครั้งที่ 28 ก็สำเร็จผล
นายโธมัส กิลโย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GCCA ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่จัดทำ ROAD map กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ของภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต โดยการดำเนินงานมีความคืบหน้าต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปีแรกอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างภาครัฐกับเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ GCCA NET Zero ทำให้รัฐบาลแคนาดา และ องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติหรือ ยูนิโด สนับสนุนเงินทุนกรีฟันด์จำนวน 8 ล้านเหรียญแคนนาดา หรือประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้ไทยบรรลุเป้าหมายของประเทศกำลังพัฒนาตามข้อตกลงปารีสได้
สำหรับกองทุนจำนวนประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐก้อนนี้ ทางรัฐบาลแคนาดาและ UNIDO จะร่วมกันส่งมอบให้กับภาคอุตสาหกรรมในไทยผ่านคณะกรรมการร่วม เพื่อพัฒนานโยบายลดการปล่อยคาร์บอน ในกรอบการกำกับดูแลและแผนงานระดับชาติ ซึ่งเงื่อนไขจะคลอบคลุมถึงแนวทางการติดตามผลที่มีประสิทธิภาพ คำแนะนำในการกำหนดเป้าหมาย และ มาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตคาร์บอนต่ำ โดยทั่วโลกกำหนดเป้าหมาย net zero ไว้ร่วมกันในปี 2050
ปัจจุบันอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศไทยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์มากถึง 14 ล้านตันต่อปี โดยในการผลิตปูนซีเมนต์ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงถ่านหินมากถึงกว่า 40% ของกระบวนการทั้งหมดนับเป็นความท้าทายที่ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เพราะ ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ยกระดับการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ คาร์บอนนูทราลิตี้ ภายในปี 2050 และ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนเป็นศูนย์ หรือ Net zero ภายในปี 2065 ซึ่งต้องลงมือทำอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่เหลือ 40 ปีจากนี้