กากแคดเมียมล็อต 2 ถึง จ.ตาก แล้ว ด้านชาวบ้านลุ้นคำวินิจฉัย หลังยื่นค้านขนย้ายเข้าโรงพักคอย

ปัญหาลักลอบทิ้งน้ำสารเคมี ที่โรงงานวินโพรเสส ต่อเนื่องมาหลายปี โดยประชาชนที่หนองพะวา รอบๆ โรงงาน ได้รับผลกระทบมาอย่างน้อย 10 ปี โดยฝ่ายโรงงานอ้างตลอดว่า เป็นการรั่วซึม แต่หลังเหตุเพลิงไหม้โรงงานเมื่อ 15 วันก่อน หลักฐานการปล่อยสารเคมีลงดินจึงปรากฏ



เรื่องของสารและวัตถุอันตราย ในลักษณะการลักลอบขน ลักลอบทิ้ง วันนี้ ยังคงมีความเคลื่อนไหว ทั้งที่โกดังสารเคมี ที่ อ.ภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเรื่องการขนกากแคดเมียมกลับจังหวัดตาก



ขบวนรถขนกากแคดเมียมรอบที่ 2 ได้เดินทางมาถึง บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด(มหาชน) ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอเมืองตาก ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยขบวนรถขนกากแคดเมียมครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการบรรทุก เป็นรถเทรลเลอร์ จำนวน 8 คัน บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ โดยรถ 1 คัน จะบรรทุกได้ 18 ถุงบิ๊กแบ็ค หรือประมาณ 25-30 ตัน ซึ่งรอบนี้ขนกากแคดเมียมมาทั้งหมด 147 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 221.54 ตัน ใกล้เคียงกับการขนครั้งก่อน



ทั้งนี้ การขนย้ายบิ๊กแบ็คลงจากตู้คอนเทรนเนอร์ เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. พนักงาน บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ได้ใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันสารพิษ เริ่มจากใช้รถโฟลค์ลิฟท์ 2 คัน ขับขึ้นไปบนตู้คอนเทนเนอร์ ค่อยๆ ยกถุงบิ๊กแบ็คถอยกลับลงมา นำมาวางเรียงไว้บนรถบรรทุกขนาดกลาง จัดเรียงได้รอบละ 8 ถุง จากนั้นก็คลุมผ้าใบอย่างมิดชิด แล้วจึงขับนำเข้าไปไว้ในโรงพักคอย แล้วจึงใช้เครนยกจัดเรียงซ้อน 4 ชั้น ในแต่ละแถว เมื่อครบจะนำผ้าใบคลุมปิดทับ เพื่อกันน้ำฝนชะล้าง



ด้านนายศุโรฒ พรมทับ ชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านคลองห้วยทราย ตำบลหนองบัวใต้ ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากพื้นที่อาคารพักคอย และบ่อกักเก็บ ประมาณ 500 เมตร เปิดเผยว่า ไม่ว่าทางราชการจะยืนยันว่า อาคารพักคอยมีความปลอดภัยระหว่างที่รอการซ่อม หรือสร้างบ่อกักเก็บสารแคดเมียม แต่ในส่วนของชาวบ้านไม่มีความมั่นใจ ในสวัสดิภาพความปลอดภัยต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตอนนี้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ที่พิษณุโลก ซึ่งศาลฯ ได้นัดไต่สวนวันนี้



โดยฝ่ายชาวบ้านที่เป็นผู้ร้อง 3 คน ได้ยื่นคำร้องให้คณะทำงานปรับปรุงแก้ไขทั้งหมด 5 ประเด็น เช่นการปรับปรุงโรงพักคอยให้สมบูรณ์ การปรับปรุงบ่อฝังกลบบ่อที่ 4 และบ่อที่ 5 ให้แล้วเสร็จ รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในแต่ละขั้นตอนด้วย



ส่วนฝ่ายผู้ถูกต้องคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะทำงานขนย้ายกากแคดเมียม ได้ส่งตัวแทนไปชี้แจงต่อศาล ซึ่งศาลได้ไต่สวนแล้ว ยังไม่มีคำสั่งใดๆออกมาในวันนี้



ส่วนชาวบ้านยืนยันว่าคำวินัจฉัยจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดที่ชาวบ้านต้องยอมรับต่อไป



ส่วนความคืบหน้า ในการแก้ปัญหาสารเคมีจากขยะอุตสาหกรรม ในโกดังที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เพิ่งเกิดเพลิงไม้ วันนี้ได้มีการดำเนินการในพื้นที่ด้านหลัง และด้านข้างของโกดังภาชี ดังนี้



ด้านหน้า บริษัท อัคคีปราการฯ ได้ดำเนินการสูบน้ำกรดจากบ่อขึ้นมาเพิ่มเติมต่อเนื่อง อีกเป็นวันที่สอง โดยจะนำไปเก็บในอาคาร 2 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของอาคาร



ด้านหลัง มีแอ่งน้ำที่มีน้ำกรดไหลเจิงนองอยู่ 4 จุด โดยบริษัท อัคคีปราการฯ นำรถมาสูบน้ำกรดขึ้นรถแท็งเพื่อไปใส่ถัง



ด้านข้างโกดัง ที่ติดคลองสาธารณะ เจ้าหน้าที่ ได้ดำเนินการนำทรายผสมปูนขาวมาทำเป็นคันกั้นระหว่างรั้วโกดัง กับ คลองสาธารณะยาวรอบด้านข้างโกดัง โดยมีถนนคั้นกลางกว้างประมาณ 6 เมตร



อย่างไรก็ตาม วันนี้การสูบน้ำกรด ไม่สามารถทำได้ต่อเนื่องเท่าที่ควร เพราะจำนวนถังที่ใช้บรรจุไม่เพียงพอ ในวันพรุ่งนี้ จะรดมถังเพิ่ม และจะเพิ่มรถสูบที่เป็นแท็งมาเพิ่มเป็น 2 คัน ซึ่งจะมีกำลังในการสูบที่แรง และสูงกว่าเครื่องสูบน้ำกรด ที่คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะสูบได้มากกว่า 100 ถัง สรุป ตอนนี้สูบน้ำกรดได้แล้วรวม 68 ถัง