สังคม

ชาวบ้านไม่มั่นใจ ความปลอดภัยโรงพักคอยแคดเมียม จี้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมเซ็นรับรอง

โดย panwilai_c

4 พ.ค. 2567

97 views

ส.ส.ก้าวไกล เรียกร้องอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปลี่ยนใจยกเลิกการลาออก เพื่อใช้เวลา 5 เดือนก่อนเกษียณ สำหรับแก้ปัญหากากเคมีอุตสาหกรรม โดยไม่อยากให้ทิ้งปัญหาไป ขณะที่การขนย้ายกากแคดเมียม กลับไปฝังกลบจังหวัดตาก วันนี้มีการทดสอบขั้นตอนการลำเลียงสารเคมี และทดสอบโรงเก็บกากแร่แคดเมียมว่ามีความพร้อมเพียงใด



นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวมถึงตัวแทนชาวบ้าน เดินทางไปที่โรงงาน บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จังหวัดตาก เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการขนกากแคดเมียมที่ได้ขนมาจากสมุทรสาครและกรุงเทพ ทั้งหมด 254 ตัน หลังจากการลำเลียงมาเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุฉุกเฉินให้ต้องยุติไป



โดยนายอดิทัต ระบุว่า การตรวจสอบวันนี้ มีทั้งขั้นตอนการลำเลียงกากแร่ลงจากรถบรรทุก โดยการขนถ่ายถุงบิ๊กแบ็คกากแคดเมียมให้เกิดความปลอดภัยและรัดกุมมากที่สุด สำหรับการแก้ไขปัญหาในโรงพักคอยชั้นดินความมั่นคงของดินที่บดอัด การทำรางระบายป้องกันการปนเปื้อนมั่นใจว่าไม่รั่วซึม ,การใช้รถเฮียบในการขนย้ายถุงกากตะกอนแคดเมียม การใช้สายเบลท์ ที่รับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยในการขนย้ายถุงบิ๊กแบ็ค มีแผนและอุปกรณ์ที่พร้อมในการเผชิญเหตุ หากอุบัติเหตุ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทดสอบ ท่ามกลางอากาศร้อน นายอดิทัต มีอาการหน้ามืดจะเป็นลม จึงได้นั่งพักสักครู่ก่อนจะทำงานได้ตามปกติ โดยผู้ติดตามระบุว่าเกิดจากอาการอ่อนเพลียในการเดินทาง ไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ- จาก หลายรอบ ในระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา



สำหรับการทดสอบโรงพักคอย กากแร่ ได้มีการตรวจสอบการรับน้ำหนัก โดยนายขวัญชัย เทศฉาย อาจารย์ ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดตาก กล่าวว่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้มอบหมายผู้เชี่ยวชาญ หลายคนมาทดสอบ โดยจะทำการทดสอบด้วยวิธี Plate bearing test หรือการทดสอบกำลังรับน้ำหนักแบกทานของพื้นดิน



เพื่อให้ทราบการรับน้ำหนักบรรทุกของดิน โดยใช้น้ำหนักกด 12 เมตริกตัน/ตารางเมตร ตามมาตราฐานการทดสอบความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกของพื้นดิน ของกรมโยธาธิการและผังเมือง



ซึ่งกำหนดทดสอบ 1 ตำแหน่งต่อพื้นที่ 300 ตารางเมตร ซึ่งจะทำการทดสอบ 8 ตำแหน่ง เพื่อครอบคลุมพื้นที่ 2,200 ตารางเมตร ผลปรากฎว่า สามารถรองรับน้ำหนักถุงบิ๊กแบ๊คซ้อนกัน 4 ถุงได้แน่นอน เพราะมีน้ำหนักประมาณ 8 ตัน น้อยกว่าที่ทดสอบคือ 12 เมตริกตัน/ตารางเมตร



อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวบ้านสังเกตการณ์ในขั้นตอนต่างๆแล้ว ก็ยังเรียกร้องว่าขอให้เจ้าหน้าที่ลงชื่อยืนยันจะรับผิดชอบในกรณีการดดำเนินการครั้งนี้เกิดผลกระทบกับชาวบ้าน



ส่วนอีกกรณีคือเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกากสารเคมี ที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ นายวริทธิ์ สมทรง วิศวกรชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มจัดการกากอุตสาหกรรม 1 กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่โกดังที่ถูกเพลิงไหม้ เพื่อติดตามการจัดการน้ำปนเปื้อนกรดเสื่อมสภาพที่ไหลผสมกับน้ำที่ใช้ดับเพลิงเมื่อวันที่้เกิดเพลิงไหม้ ที่ไหลเจิงนองอยู่ด้านท้ายโกดังซึ่งอาจจะมีการไหลไปสู่ภายนอกได้



โดยวันนี้อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อใช้รถแบ็คโฮในการตักทรายและปูนขาวไปกลบทับพื้นที่บริเวณท้ายโกดังที่มีน้ำปนเปื้อนกรดดังกล่าว และจากนั้นต้องรอให้มีการจับเป็นก้อนหรือเป็นของแข็งแล้วตักใส่ถุงบิ๊กแบ็คเพื่อนำเคลื่อนย้ายไปวางไว้ยังจุดอื่นต่อไป



สำหรับโกดัง หลังที่ 4 และ 5 ที่ถูกเพลิงไหม้ พบว่าหลังคาทั้งสองโกดังได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และถังสารเคมี ถัง IBC ที่ถูกกองวางไว้ 2-3 ชััน ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้เกือบทั้งหมด และมีของเหลวที่มีสภาพเป็นกรดเจิงนองจำนวนมาก โดยสัปดาห์หน้า กรมโรงงาน และอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม หลังจากได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้



สำหรับเหตุเพลิงไหม้โรงงาน วิน โพรเสส จ.ระยอง วันนี้นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งข้อเรียกร้องของชาวบ้านคือต้องการให้ย้ายกากสารเคมีออกจากพื้นที่ไปทั้งหมดโดยเร็ว

และเตรียมพร้อมรับมือ กรณีที่จะเข้าสู่ฤดูฝน ที่จะทำให้น้ำสารเคมีปนเปื้อนแหล่งน้ำเพิ่มเติม



หลังจากเดินสำรวจรอบโรงงานแล้ว นายสุชัชวีวร์ ถึงกับบอกว่า ไม่มีที่ใดแย่ไปกว่าที่นี่แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว



ขณะที่นายพูนศักดิ์ จันทร์จําปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลาออกจากตำแหน่งว่า อยากให้เปลี่ยนใจกลับมาแก้ปัญหาการจัดการขยะอุตสาหกรรมต่อ เวลาอีก 5 เดือนในอายุราชการที่เหลือยังมีหลายเรื่องรอให้แก้ไข อย่าเพิ่งทิ้งปัญหาไป



พร้อมตั้งคำถามถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาล มักโยนบาปให้ข้าราชการ โดยยกตัวอย่างการปัญหานำเข้าหมูเถื่อน ที่นายกรัฐมนตรี ตำหนิอดีตอธิบดีดีเอสไอ ทั้งๆที่ตัวเองควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง กำกับดูแลกรมศุลกากร



นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และ พ.ร.บ.โรงงาน การปล่อยปละละเลยในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ การคานอำนาจในการควบคุมมลพิษจากโรงงานโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบังคับให้โรงงานที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุหรือก่อให้เกิดมลพิษ ต้องทำประกันสิ่งแวดล้อมหรือจัดทำหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นต้น

คุณอาจสนใจ

Related News