สังคม

3 รมต. ลงพื้นที่แม่สอด สร้างความเชื่อมั่นอธิปไตยไทย หลังเหตุสู้รบในเมียนมา

โดย panwilai_c

23 เม.ย. 2567

68 views

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่อำเภอแม่สอดร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนตามแนวชายแดน และติดตามการช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบ ซึ่งสถานการณ์ดีขึ้น และหวังว่าจะคลี่คลายได้ในไม่กี่วันนี้



เนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ลงพื้นที่อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และพล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และกรรมการที่นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติแต่งตั้งขึ้น ร่วมประชุมติดตามถสานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา จากนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจ.ตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



ก่อนจะลงพื้นที่ด่านพรมแดนแม่สอด 1 เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์การค้าชายแดน ซึ่งร้านค้าภายในตลาดริมเมย มีการปิดร้านไปเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การค้าเริ่มซบเซา โดยนายปานปรีย์ นายอนุทิน และนายสุทิน ได้ให้กำลังใจประชาชนและร้านค้าที่ตลาดริมเมย และให้ความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะดีขึ้น รวมทั้งรัฐบาลได้ดูแลสถานการณ์เพื่อไม่ให้กระทบประชาชนไทยและชายแดน



นายปานปรีย์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา หลังจากนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจดูแลผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งไทยไทยได้ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ซึ่งทุกคนสบายใจขึ้น จากที่เคยมีกว่า 2,000 คน หลายคนได้กลับไปสู่ประเทศเมียนมาแล้ว คงเหลือกว่า 600 คน เชื่อว่าถ้าสถานการณ์คลี่คลายจะกลับไปทั้งหมดในเร็ววันนี้ ส่วนด่านพรมแดนแม่สอด 1 ที่ทางการเมียนมาปิดด่านฝั่งเมียวดีชั่วคราว เพราะปัญหาการออกบัตรผ่านแดนชั่วคราว เชื่อว่าจะแก้ไขได้เร็วๆนี้ รวมถึงด่านแม่สอด 2 ที่กระทบกับรถขนส่งสินค้า เชื่อว่าจะเปิดได้ใน 1-2 วันนี้ด้วย



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่าอ.แม่สอด จ.ตาก มีความปลอดภัยแน่นอน ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการ จ.ตาก ได้รายงานสถานการณ์และได้ให้การดูแลผู้หนีภัยในด้านมนุษยธรรม และสำหรับประชาชนทั่วไปขอให้เชื่อมั่นว่าอำเภอแม่สอดสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้



นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าสถานการณ์ ยังอยู่ในระดับที่รับมือได้ ทั้งกองทัพบกทำหน้าที่บำรุงขวัญกำลังใจประชาชน ส่วนกองทัพอากาศมีขีดความสามารถที่จะยับยั้งการุกล้ำอธิปไตยได้ รวมถึงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย ดูแลผู้หนีภัยที่พลเรือน ถ้าเป็นทหาร มีหลักการที่ต้องปลดอาวุธ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์ที่เกินกำลังจะดำเนินการได้



นายปานปรีย์ เปิดเผยว่ามีความพยายามในการเจรจากับทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล SAC และกองกำลังชาติพันธุ์ เพื่อหาทางออกอย่างสันติ แต่ภายในเมียวดียังเป็นปัญหาภายในของแต่ละฝ่าย ซึ่งทราบแล้วว่าไทยอยากมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทั้งระบบเพื่อให้เมียนมามีสันติภาพโดยเร็ว และอาเซียน จะเข้ามาช่วยด้วย ซึ่งจะมีการประชุมระดับอาเซียนต่อไป ส่วนการจัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่มีข้อห่วงใยมาจากภาคประชาสังคม ยืนยันว่าทางการไทยจัดสถานที่ให้เหมาะสมแล้ว



สำหรับผลกระทบจากการปิดด่านพรมแดนแม่สอด 2 ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลโดยตรงกับรถบรรทุกขนส่งสินค้าที่จอดติดค้างอยู่ในอำเภอแม่สอด ไม่สามารถไปส่งสินค้าได้ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงอยากให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว โดยรถบรรทุกขนส่งสินค้าเหล่านี้ไปส่งของที่โกดังเมียวดีเท่านั้น ไม่ได้ใช้เส้นทางไฮเวย์เดินทางไปเมืองอื่นในเมียนมา



ล่าสุดมีรายงานว่า ปรากฏภาพ ทหารเมียนมา นำธงชาติเมียนมา ชักธงขึ้นเสาที่ กองพัน ร.275 บ้านผาซอง ในเมืองเมียวดีเป็นสัญลักษณ์ว่ายึดคืนฐานกองพัน 275 คืนจากกองกำลังผสมกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติ KNLA/KNU และ PDF ได้แล้ว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากกองกำลัง KNA/BGF เปิดทางให้ทหารรัฐบาลเมียนมา SAC นำธงชาติเมียนมาเข้าไปได้ และมองว่าเป็นการหวังผลทางจิตวิทยาและทางการเมืองเพราะ KNLA ยังยึดค่ายทหารเมียนมาอื่นๆได้อยู่ ทั้งฐาน 355,356,357 และ บก.ควบคุมที่ 12 ซึ่งได้นำธงชาติกะเหรี่ยงไปปักธงแทนธงเมียนมา ก่อนหน้านี้แล้ว



รวมทั้งกองกำลังผสมยังคงระดมกำลังสกัดกั้นทหารทหารเมียนมา ที่เมืองก็อกกะเร็กอย่างเต็มที่ เชื่อว่า การที่ KNA/BGF ยอมให้ทหารเมียนมาเข้าไปชักธงที่กองพัน ร.275 อาจมีการต่อรองผลประโยชน์บางอย่าง ที่ทาง KNLA จะต้องจับตาท่าทีของกองกำลัง KNA/BGF ว่าจะแปรพักตร์ไปร่วมมือกับกองทัพเมียนมา SAC หรือไม่



พะโด่ซอตอนี โฆษก สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ยอมรับว่า ทางการเมียนมา SAC พยายามอย่างมากที่จะยึดคืนเมียวดี และ KNU ไม่ต้องการให้มีความแตกแยกระหว่างชาวกะเหรี่ยงอีกแล้ว แต่เนื่องจาก กองกำลังKNA/BGF แจ้งว่าจะเข้าไปที่ฐานดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงก็พบว่ามีการ และชักธง SAC ขึ้นแทน ซึ่งหลังกองกำลังผสมยึดฐาน 275 ได้แล้ว ก็ได้ให้ความสำคัญกับการสกัดการส่งกำลังเสริมที่ SAC ส่งมาทางกอกาเร็กซึ่งเป็นงานเร่งด่วนในเวลานี้

คุณอาจสนใจ

Related News