เครือข่าย 24 องค์กร สะท้อนปัญหาส.ป.ก.เขาใหญ่ ถกแนวทางแก้ปัญหาแบบยั่งยืน

ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการออกส.ป.ก.4-01 ในแนวพิพาทที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และสวนป่าตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์หลังจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม



พบการปักหมุดส.ป.ก.59 แปลงในแนวเขตอุทยานฯ จนนำไปสู่การตรวจสอบทั้งแนวเขตพิพาท และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯตั้งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบ จนพบว่า มีการออกส.ป.ก.ให้กับผู้ขาดคุณสมบัติจริงหลายแปลง ทั้งยังอยู่ระหว่างการถกเพื่อหาข้อยุติแนวเขตพิพาทที่จะเป็นที่ยอมรับกันทุกฝ่าย คือ คณะกรรมการวันแม็ป



อีกด้านหนึ่งในพื้นที่ กลุ่มชาวบ้านและประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ข้างเคียงก็ออกมารวมตัวจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวปกป้องป่าเขาใหญ่ควบคู่กัน ล่าสุดได้สะท้อนปัญหาล่าสุดจากเวทีเสวนาที่จัดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง



ตามที่กลุ่มเพื่อนเขาใหญ่ และเครือข่ายอนุรักษ์เขาใหญ่ รวม 24 องค์กร ได้ร่วมกันจัดเวทีรณรงค์ "ปกป้องเขาใหญ่ให้ปลอดภัยจาก ส.ป. ก." ในช่วงวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์และวันที่ 2-3 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันแสดงเจตนารมย์ในการปกป้องป่าเขาใหญ่ จากกรณีที่พบว่ามีการปักหมุด จัดแปลง เพื่อออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01ในพื้นที่ป่าเขาใหญ่ บริเวณบ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีการนำพื้นที่ป่าที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่มีการทำประโยชน์ทำกินมาก่อนไปออกเอกสาร อันเป็นการกระทำที่ผิดต่อระเบียบกฎหมาย ที่จะทำให้ ต้องสูญเสียสภาพป่าสมบูรณ์ของเขาใหญ่ไปอย่างถาวร



เครือข่าย 24 องค์กรปกป้องเขาใหญ่ ระบุว่า จากการติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาดังกล่าว ที่แม้ว่าในช่วงแรกๆ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของส.ป.ก. ผู้ออกเอกสารจะออกมายอมรับว่า เป็นการออกเอกสารที่ผิดต่อระเบียบกฎหมาย



โดยจะมีการเพิกถอนเอกสารและตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง แต่ในช่วงหลังๆ กลับพบว่า กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารดังกล่าว ยังคงมีพฤติกรรมที่ไม่มีการรับผิดอย่างแท้จริง โดยพยายามที่จะอ้างประเด็นเรื่องแผนที่แนวเขต เพื่อบิดเบือนบ่ายเบี่ยงว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. แต่เพียงหน่วยเดียว ทำให้ ส.ป.ก. มีความชอบธรรมในการออกเอกสารดังกล่าวโดยไม่สนใจในสภาพภูมินิเวศน์ ความเป็นจริงของพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่า ที่มีหน่วยงานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบป้องกันดูแลรักษามาตลอด จนทำให้ป่าผืนนี้รอดจากการบุกรุกทำลาย คงสภาพเป็นป่ามาได้จนถึงปัจจุบัน



นอกจากนี้ยังมองว่า ทางส.ป.ก. ยังมีการเสนอแนวทางในทำนองว่า จะกันพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวไว้เป็นป่ากันชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของส.ป.ก. หรืออาจจัดตั้งเป็นป่าชุมชน โดยกันพื้นที่ออกจากพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งยังคงทำให้ผืนป่าต้องตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกบุกรุกทำลายจนหมดสภาพไปในที่สุด ทำให้ไม่อาจไว้วางไจได้ว่า กลุ่มผู้ออกเอกสาร จะมีความจริงใจในการ แก้ปัญหาในการรักษาป่าผืนนี้ไว้



ดังนั้น เตรียมประชุมเสวนาแนวทางแก้ปัญหา ส.ป.ก.รุกป่าเขาใหญ่ แบบยั่งยืน เพื่อร่วมกันระดมข้อมูล ความคิดเห็น แนวทาง วิธีการ ที่จะสามารถปกป้องป่าผืนนี้จากการบุกรุกอย่างแท้จริง แล้วจัดทำเป็นเอกสารบทสรุปนำเผยแพร่ต่อสาธาณะชน และเสนอไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องในระดับสูงเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป