'นฤมล' ไฟเขียว สั่งสอบปมออกสัญญาเช่าที่ดินในเขต ส.ป.ก.ของ 'ไร่ภูนับดาว'

ความคืบหน้ากรณี "ไร่ภูนับดาว" ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ สั่งให้สอบกรณีที่มีการออกสัญญาเช่าที่ดินในเขต ส.ป.ก.ของไร่ภูนับดาว พร้อมกับยันว่า นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ไม่ได้มีตำแหน่งในกระทรวงเกษตรฯ เเละฝ่ายการเมืองก็ไม่มีสิทธิเข้าไปก้าวก่ายเรื่องนี้ ขณะที่นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกร้องกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกับเอกชน ที่บุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินสวนป่า ซึ่งมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วพร้อมทั้งให้สั่งรื้อถอน สิ่งปลูกสร้างทั้งหมด แล้วเร่งดำเนินการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพสวนป่าเช่นเดิมโดยเร็ว



นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงกรณีการออกสัญญาเช่าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมของ"ไร่ภูนับดาว" อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยบอกว่า ตามที่ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ของจังหวัดสระบุรี ออกสัญญาให้เช่าที่ดินเพื่อให้สามารถเข้าทำประโยชน์บนที่ดิน ส.ป.ก. ได้นั้น



นายเอกภาพ ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่า ตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ก็ไม่ได้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในสมัยของ ร้อยเอกธรรมนัส ก็ไม่ได้มีนโยบายให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายประจำ ในเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่



เมื่อ 2 วันก่อนสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ออกหนังสือชี้แจงว่า ที่ดินไร่ภูนับดาว เป็นที่ดินในเขตปฎิรูปที่ดินหมู่ 2 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี



ต่อมามีการยื่นคำขอรับอนุญาติใช้ที่ดิน 3 แปลงเนื้อที่ราว 3 ไร่เศษ เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรมนวตกรรมยั่งยืนไร่ภูนับดาว ซึ่งทางส.ป.ก.สระบุรีพิจารณาให้ใช้ที่ดินโดยการเช่า ก่อนจะสั่งให้เป็นข้อยุติดำเนินการชั่วคราวหลังจากที่เป็นข่าว



ปรากฎว่า ทางสำนักงานป้องและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต1 หรือปปท.เขต1 ได้ส่งเอกสารเป็นบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างกรมป่าไม้และส.ป.ก.มายืนยันกับข่าว 3 มิติ ว่าที่ดินบริเวณป่าท่าฤทธิ์ ป่าลำพญากลาง และ ป่าลำทองหลาง มีการกันคืนให้เป็นสวนป่าของกรมป่าไม้แล้ว เมื่อปี 2540 ตามเอกสารฉบับนี้



ซึ่งมีผู้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงทั้งผู้ว่าราชการสระบุรี ผู้เกี่ยวข้องของส.ป.ก.สระบุรีและกรมป่าไม้ มีการระบุลักษณะที่ไม่สมควรนำไปปฎิรูป ไว้ในรายงานการสำรวจพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด



ต่อมาพบการบุกรุกสวนของเอกชนบางรายจึงฟ้องดำเนินคดีซึ่งศาลมีคำพิพากษาที่สุดทั้งสั่งจำคุกและรอลงอาญา ก่อนจะพบว่ามีการออกส.ป.ก.ทับที่สวนป่าให้กับเอกชน จึงส่งเรื่องให้ป.ป.ช.เอาผิดกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง



ซึ่งล่าสุดนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก็เห็นว่า เรื่องนี้ทางกรมป่าและกรมอุทยานฯต้องออกมาฟ้องดำเนินคดี เรียกความเสียหายทางแพ่งกับเอกชน แล้วสั่งให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน90วัน เช่นเดียวกับสมัยที่ทวงคืนป่าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน



ทางด้านนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนตรวจสอบการใช้ที่ดินส.ป.ก. โพสเฟชบุ๊คประกาศ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาวอีกครั้ง โดยจะลงพื้นที่พร้อมกับพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเลขาธิการส.ป.ก. ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้