สังคม

ลุยจับ 13 จุด ล้างบางจนท.รัฐ ออกหนังสือให้นอมินีครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โคราช กว่า 600 ไร่

โดย petchpawee_k

21 มิ.ย. 2567

56 views

ปปป.เปิดปฏิบัติการ ลุยค้น 13 จุด ใน 3 จังหวัด ล้างบางเจ้าหน้าที่รัฐ ออกหนังสือให้นอมินีครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โคราช กว่า 600 ไร่ เอื้อนายทุนโรงงาน ใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำเสีย บุกค้นบ้าน ตะลึงเจอหลักหมุด-เครื่องรังวัดเพียบ


ช่วงเช้าวานนี้ (20 มิ.ย.67)  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ  และนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ลงพื้นที่จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบ


จุดแรกที่นำกำลังไปตรวจค้น อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่12 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักของนายปรีชา หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่นายช่างสำรวจอาวุโส  แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพัก  เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน สอบถามคนในบ้าน ทราบว่าออกจากบ้านพักไปวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่เช้าตรู่ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อยู่ห่างจากบ้านพักราวๆ 6 กิโลเมตร  จึงนำกำลังตามไปจับกุมตัวได้


จุดที่ 2 ไปตรวจค้นบ้านในชุมชนเดชอุดมสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตัวผู้ต้องหานั้น เป็นอดีตข้าราชการเกษียณ สปก.นครราชสีมา ในตำแหน่งนายช่างรังวัด   เบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังนี้ ทางผู้ต้องหาเช่าเอาไว้สำหรับพูดคุยงาน  ภายในบ้านพบหลักฐานหลายรายการ เช่น หลักมุดที่ดิน ส.ป.ก. ,เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น  นอกจากนี้ยังพบบุคคลอื่นที่อยู่ภายในบ้านพักหลังนี้ด้วย เจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดฐานออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบหรือไม่


สำหรับการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุด ใน 3 พื้นที่ จ.นครราชสีมา , อุดรธานี และ กรุงเทพฯ เพื่อจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตออกใบอนุญาตที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา 4 ราย ประกอบด้วย  นายอัครเดช  เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา จับกุมได้ที่กรุงเทพฯ  นางวิไลลักษณ์ เจ้าหน้าที่นิติกรชำนาญการพิเศษ  จับกุมได้ที่กรุงเทพฯ  นายปรีชา เจ้านายช่างสำรวจอาวุโส  จับกุมได้ที่ จ.นครราชสีมา  และ นายโชคศักดิ์ นายช่างรังวัด  จับกุมได้ที่ จ.อุดรธานี  ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ"            


สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ ได้เข้าร้องขอให้ทางตำรวจ บก.ปปป. ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก จังหวัดนครราชสีมา หลังเชื่อว่า มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปะละเลยให้โรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ ส.ป.ก.โดยไม่มีการดำเนินการใดๆ กับโรงงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ทรัพยากรบริเวณดังกล่าวเสียหาย กว่า 600 ไร่


ต่อมาตำรวจ บก.ปปป. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงมานานกว่า 5 เดือน พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นบ่อน้ำและมีน้ำเสียปะปนอยู่ ซึ่งโรงงานดังกล่าวได้ครอบครองที่ดินของ ส.ป.ก. ตั้งแต่ปี 2521 โดยมิชอบและลักลอบขุดบ่อปล่อยน้ำเสียจากโรงงานสู่ที่ดิน ส.ป.ก. มาโดยตลอด  


นอกจากนี้ ยังพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มดังกล่าว  มีการฉ้อฉล ปลอมเอกสารสิทธิ์ เร่งรัดออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือ ส.ป.ก. 4-01 ให้กับชาวบ้านรวม 13 ราย ในลักษณะของนอมินี   คือ ให้ชาวบ้านทั้ง 13 ราย ได้รับสิทธิ์เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินแทนบริษัทโรงงาน  โดยอ้างว่ารับกระจายสิทธิ์มาจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ เพื่อเลี้ยงปลาและเพาะเลี้ยงสาหร่าย ซึ่งโดยสภาพพื้นที่แล้วในความเป็นจริง ไม่อาจอนุญาตให้ประชาชนเข้าทำเกษตรได้  เป็นการปกปิดความผิดของบริษัท จากการปล่อยน้ำเสียลงที่ดินของ ส.ป.ก. เป็นการปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ของชาวบ้าน  ทำให้ที่ดินของรัฐ(ส.ป.ก.) ได้รับความเสียหายเกือบ 600 ไร่  จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ออกหมายจับเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำผิดทั้ง 4 ราย


นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ตามนโยบาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบการใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งหากพบว่ามีการใช้ที่ ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที เอาจริงและให้ตรวจสอบผู้ที่ได้รับเอกสาร ส.ป.ก. ทั่วประเทศว่าเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่ หรือเป็นนายทุน ไม่ถูกต้องตามระเบียบและวัตถุประสงค์ รวมไปถึง การดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ นอมินี นายทุนต่างๆ    


 ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพที่ดินที่ออกเป็น ส.ป.ก.4-01ดังกล่าว ส่วนใหญ่พบเป็นบ่อน้ำเสียเต็มพื้นที่ ไม่เหมาะสมในการนำมาจัดให้เกษตรกร รวมถึงยังพบร่องรอยการลงนามเอกสารที่ไม่สมบูรณ์  มีการเร่งรัดข้ามขั้นตอน และบันทึกข้อมูลอันเป็นเท็จ  พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่า ไม่มีการตรวจสอบความเป็นเกษตรกรของผู้ที่จะเข้ามาถือครอง ซึ่งบางรายพบว่าเป็นพนักงานโรงงาน บางรายไม่มีคุณสมบัติชัดเจน เช่นไม่ใช่ญาติของผู้กระจายสิทธิ และไม่ได้เป็นเกษตรกรตามข้อกำหนด  ซึ่งปกติแล้วการออกหนังสือที่ดิน ส.ป.ก. จะใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างนาน แต่ในกรณีกลับพบว่าใช้เวลาเพียงแค่เดือนเศษๆ ซึ่งถือว่าเร็วมาก เร็วผิดปกติ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้เลือกปฏิบัติ ทำให้เฉพาะกลุ่มนายทุน หรือ คนรวย


นายธนดล ยืนยันว่า ไม่ว่านายทุนหรือผู้อยู่เบื้องหลังจะเป็นใคร หากพบว่ามีความผิดหรือเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีเอาผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมได้  จากแนวทางสืบสวนพบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ โดยใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในการกระทำผิด  ซึ่งจะเร่งขยายผลหาความเชื่อมโยงไปยังเจ้าหน้าที่รัฐรายอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกออกหมายจับ คาดว่า มีอีกประมาณ 5 ราย เป็นข้าราชการระดับ ซี 7และ 8  


นายธนดล ย้ำว่า จะต้องล้างบางขบวนการนี้ให้หมดไปจาก ส.ป.ก. ใครมีเบาะแสอะไร สามารถแจ้งมาโดยตรงที่ตนเองได้เลย  ส่วนของกลางที่ตรวจยึดไว้จำนวนมาก จะต้องถูกนำไปตรวจสอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหมุด เครื่องมือรังวัด คอมพิวเตอร์ และบุคลากรทั้งหมด หากพบความผิด จะดำเนินคดีทันที


ส่วนหมุดที่มีทั้งใหม่และเก่า ลักษณะมีดินเปรอะเปื้อนนั้น ตอนนี้กำลังให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากบัญชีของ ส.ป.ก.นครราชสีมา ว่าแต่ละหมุดตรงกันหรือไม่ หรือปลอมแปลงขึ้นมาใหม่ ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด  เพราะถ้าเป็นของจริง การจะนำออกไปเช่นนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ของทางราชการ แต่ถ้าเป็นของปลอม ก็จะถูกดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารและหลักฐานของทางราชการ เพราะตัวเลขที่ปรากฏในหมุด จะระบุสถานที่ไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว


ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ถ้าหากอยากจะขอความเป็นธรรม ก็สามารถทำได้ แต่การที่จะออกหมายจับได้นั้น พยานและหลักฐานต่างๆ ก็ต้องครบถ้วนมาก่อนแล้ว ถ้าไม่ครบถ้วนศาลก็คงจะไม่ออกหมายจับให้อย่างแน่นอน   และหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการสอบสวน ทางตำรวจ บก.ปปป. จะเร่งประสานไปยัง ปปง. เพื่อขยายผลยึดทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้ พร้อมเตรียมขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อหาความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มนายทุน  ซึ่งมีข้อมูลว่า ได้โอนทรัพย์สินไปให้ลูกสาวผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัด  ขณะที่ในส่วนของนอมินี ทั้ง 13 คน ทางเจ้าหน้าที่เตรียมเชิญตัวมาให้ปากคำ หากให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็อาจมีการพิจารณากันไว้เป็นพยาน


ทาง พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. เปิดเผยว่าพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.มากที่สุด มี 3 จังหวัดคือ จ.นครราชสีมา มีเนื้อที่กว่า 5 ล้านไร่ ขณะที่ จ.ภูเก็ต และกระบี่ มีเนื้อที่ประมาณ 1 ล้านไร่ ที่มีปัญหาเรื่องการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่ออกใบอนุญาติสิทธิ์การครอบครองโดยมิชอบ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบทั้งหมด


 พ.ต.ท.สิริพงษ์ ยอมรับว่า กระบวนการสอบสวนคดีนี้ล่าช้า แต่เป็นการใช้เวลาไล่สอบสวนตั้งแต่ต้นทางร่วมกับหลายหน่วยงาน จนพบว่า เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมาทั้ง 4 ราย มีส่วนร่วมในการออกเอกสารสิทธิ์ 4-01 โดยมิชอบ โดยเฉพาะการไม่ตรวจสอบประวัตินอมินี 13 รายว่าเป็นเกษตรกรจริงหรือไม่ ไปจนถึงการที่สามารถออกรังวัดและเอกสารได้ภายในวันเดียว ทั้งที่ระยะเวลาออกเอกสารต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30-60 วัน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/4A8dsOjfNJs

คุณอาจสนใจ

Related News