สังคม
เปิดเบื้องหลัง กวาดบ้านส.ป.ก. จับ 4 จนท.ออกเอกสารสิทธิ์ให้นอมินี ค้นบ้านพบเครื่องมือรังวัด-หมุดเขต
โดย panwilai_c
20 มิ.ย. 2567
236 views
ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ปปท. ป.ป.ช. และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสาหกรณ์ นำหมายจับและหมายค้น รวม 13 หมาย เข้าค้นและจับเจ้าหน้าที่รัฐและอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดสำนักงานปฎิรูปที่ดิน นครราชสีมา รวม 4 คน ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ให้ราษฎร 13 ราย แต่ปรากฎว่าเป็นนอมิมีของนายทุน และที่ดิน ส.ปก.นั้น แทนที่จะทำเกษตรกรรม กลับถูกใช้เป็นบ่อทิ้งน้ำเสียของโรงงานแป้งมันสำปะหลังในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
บุคคลที่ถูกศาลอนุมัติหมายจับ 4 คน คือนายอัครเดช เจ้าหน้าปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถูกจับได้เมื่อเช้านี้ ที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ ที่กรุงเทพฯ
คนที่สองคือนางวิไลลักษณ์ เจ้าหน้าที่นิติกรชำนาญการพิเศษ ถูกจับที่กรุงเทพฯ, คนที่สามคือนายปรีชา อดีตนายช่างสำรวจอาวุโส ที่เกษียณอายุราชการเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ถูกจับที่จังหวัดนครราชสีมา
และคนที่สี่นายโชคศักดิ์ อดีตลูกจ้างฝ่ายรังวัด ซึ่งหมดสัญญาจ้างไปแล้ว ถูกจับที่บ้านพัก ในอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี
ทั้ง 4 คนถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และถูกดำเนินคดีฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นความผิดอาญามาตรา 157
รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ ป.ปป.ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ กรณีปล่อยให้โรงงานมันสำปะหลังแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองนครราชสีมา ปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ของ ส.ป.ก.จนเสียหายกว่า 600 ไร่
เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบเมื่อปีที่แล้ว ยังพบร่องรอยการปล่อยน้ำเสีย ท่อระบายน้ำเสียจากโรงงานมาถึงที่ดิน รวมถึงการขุดดินทำเป็นบ่อ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสภาพที่ดิน ส.ป.ก.ชัดเจน
ขณะที่การตรวจสอบของชุดเฉพาะกิจพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังพบว่าผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์สปก.4-01 แปลงดังกล่าวจำนวน 13 ราย มีความผิดปกติ เข้าข่ายเป็นนอมินีให้โรงงานแป้งมัน เช่น อ้างว่าเลี้ยงปลา แต่สภาพเต็มไปด้วยน้ำเสีย อ้างว่าเป็นเกษตรกร แต่หลายคนมีเลขประกันสังคมที่แสดงว่าเป็นพนักงานบริษัท และทั้ง 13 คนดังกล่าวมีทั้งที่ยังเป็นพนักงานและอดีตพนักงานของโรงงานแป้งมันดังกล่าว จึงเชื่อว่าเป็นนอมินี
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่าปฏิบัติการวันนี้เป็นการดำเนินการระยะแรก หรือเฟสแรก เพื่อติดตามเอาผิดผู้ร่วมกระทำผิดดังกล่าว โดยยังเหลืออีกหลายกลุ่มที่กำลังเร่งดำเนินการ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ระบุว่ามีการสอบสวนจนพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 4 รายดังกล่าว อาจปฎิบัติหน้าที่มิชอบในการออกเอกสารสิทธิ์ โดยเฉพาะการละเลยไม่ตรวจสอบประวัติผู้จะได้สิทธิ์ทั้ง 13 คนว่ามีสิทธิ์จริงหรือไม่ รวมถึงขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่แล้วเสร็จภายในวันเดียว ทั้งที่ โดยปกติใช้เวลา 30 ถึง 60 วัน
ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การปฎิเสธและจะขอสู้คดีในชั้นศาล ส่วนผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์ทั้ง 13 คน เมื่อเช้านี้เจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำที่ตำรวจภูธรภาค 3 โดยระบุว่าหากให้การเป็นประโยชน์จะกันไว้เป็นพยาน และหากปกปิด ทั้งที่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลชัดเจน ก็อาจตกเป็นผู้ต้องหาด้วย