กรมแผนที่ทหาร พิสูจน์ปมพิพาทออกส.ป.ก.4-01 ทับซ้อนอุทยานฯเขาใหญ่ คาด 2-3 สัปดาห์ ได้คำตอบ

กรณีออกส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่ทับซ้อนเเนวเขตอุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่ กำลังเป็นร้อนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า "การจัดสรรที่ทำกินในพื้นที่พิพาท ออกให้โดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่" ซึ่งการสำรวจพบว่า ที่ดินบางเเปลงมีลักษณะเป็นหนองน้ำ มีสภาพป่าสมบูรณ์ เเละยังปรากฏร่องรอยของสัตว์ป่า เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจน วันนี้"กรมเเผนที่ทหาร"จึงเข้ามาเป็นหน่วยงานกลาง ร่วมตรวจพิสูจน์ว่าแปลงที่ ออก ส.ป.ก.4-01 นี้ เป็นป่าในความรับผิดชอบของใครกันเเน่



พลโทชาคร บุญภักดี เจ้ากรมเเผนที่ทหาร พร้อมคณะทำงาน ร่วมตรวจพิสูจน์ในเเนวป่าที่เป็นเเปลงที่ดินพิพาท ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง ส.ป.ก.เเละอุทยานฯ ต่างก็ยึดเอาเเนวเขตจากเเผนที่คนละฉบับ



โดยกรมอุทยานฯ ที่นำโดย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน ยืนยันว่า ดูเเล-รับผิดชอบพื้นที่ป่าบริเวณนี้ ตามที่ประกาศในพระราชกฤษฎีกา มาตั้งแต่ปี 2505



ขณะที่ ส.ป.ก. ซึ่งวันนี้ผู้ที่เข้ามาร่วมตรวจสอบ ไม่ใช่ ร.อ.ธรรมนัส เเต่เป็นนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ก็ยืนยันเช่นกันว่า เเปลงที่ดินพิพาทนี้ ส.ป.ก.รับมอบมาตาม มติครม.ปี 2531 และประกาศเขตในปี 2534



เจ้ากรมเเผนที่ทหาร บอกว่า การตรวจพิสูจน์ครั้งนี้ จะได้พิกัดเเละสามารถอธิบายได้ ระหว่างนี้จะให้คณะทำงานรวบรวมข้อมูลจากทุกฝ่ายมาประกอบ คาดว่าจะใช้เวลาราว 2-3 สัปดาห์ จะมีคำตอบที่ชัดเจน



นอกจากที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ในฝั่งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เเละสิ่งเเวดล้อม บ่ายที่ผ่านมา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพฯ พร้อมอธิบดีกรมอุทยานฯ เข้าสำรวจเเปลงที่มีการตรวจยึด-ดำเนินคดีกับผู้ที่ปักป้าย อ้างสิทธิ์ส.ป.ก.เข้ามามาเปิดป่า-ทำประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อน ทั้งที่บริเวณนี้มีหลักเขตอุทยานฯ เเละหมุดหลักเขตกรมป่าไม้ ที่ฝังไว้ตั้งเเต่ก่อนประกาศเป็นอุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่



ที่น่าสังเกตคือ มีหลายเเปลงยังสภาพป่า เเละตั้งทับบนหนองน้ำ รอบบริเวณยังคงปรากฏร่องรอยหากินของสัตว์ป่าชัดเจน



เเม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปในวันนี้ ว่าเเนวป่าในที่ส.ป.ก.นี้เป็นของใคร เเต่จากการลงพื้นที่ร่วมกันของทุกฝ่าย ก็อาจจะพอบอกได้ว่า "ใครที่อยู่กินมาก่อนจะเกิดกรณีพิพาท"