อธิบดีกรมปศุสัตว์ เข้าพบ 'ทวี' คดีหมูเถื่อน ยันไม่ได้มาเพื่อขอร้องไม่ให้ออกหมายจับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย นำอธิบดีกรมปศุสัตว์พร้อมเจ้าหน้าที่ ไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ข้อมูลและประสานความร่วมมือกับดีเอสไอ เพื่อคลี่คลายคดีการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน และส่งตีนไก่ไปประเทศจีนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่าเป็นการมาพบเพื่อประสานความร่วมมือ ไม่ใช่เพื่อขอร้องไม่ให้ดีเอสไอออกหมายจับ ตามที่บางคนกล่าวหา ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ทำงานโดยยึดมั่นในพยานหลักฐาน และตรงไปตรงมา



นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนะมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และข้าราชการกรมปศุสัตว์ เข้าพบพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อบ่ายวันนี้โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นทั้งกรมปุศัตว์และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้แถลงข่าวร่วมกัน



นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่ามีการหารือเพื่อประสานความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เกี่ยวกับคดีลักลอบนำเข้าหมูชำแหละจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และคดีลักลอบนำเข้าตีนไก่จากต่างประเทศแล้วสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยเพื่อส่งไปจีน โดยนายสมบูรณ์ ยืนยันว่าจะทำตามหลักฐานที่แท้จริง ไม่มีการกลั่นแกล้งและไม่มีเรื่องทางการเมือง ทุกอย่างทำตามหลักฐาน เป็นวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้



นายสมบูรณ์ ยืนยันว่าการมาพูดคุยหารือกันในวันนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ไม่ได้มีการมาขอไม่ให้ออกหมายจับตามที่มีกระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้ มีเพียงการพูดคุยเรื่องการทำงานร่วมกัน



ส่วนนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ระบุว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยินดีส่งข้อมูลที่ดีเอสไอต้องการใช้ ทั้งพยานหลักฐานบุคคล วัตถุพยาน และเอกสาร และยืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรว่า หากมีข้าราชการใน 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมปศุสัตว์ / กรมประมง / และกรมวิชาการเกษตร กระทำการทุจริต จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ด้วย ยืนยันไม่ปกป้องคนที่กระทำความผิด



สำหรับกรณีการนำตีนไก่จากต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ว่าเป็นสินค้าไทยเพื่อส่งไปประเทศจีนนั้น นายธนดล ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่นายสัตวแพทย์สมชวน ไม่ได้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ แต่เมื่อขณะนั้นประเทศจีนแจ้งมาว่าเกิดปัญหากรณีตีนไก่ที่ส่งไปไม่มีคุณภาพและถูกตีกลับนั้น ได้สั่งระงับการส่งออกของบริษัทดังกล่าวทันที และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการส่งออกตีนไก่ไปประเทศจีนอีก



ส่วนอธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนมาอย่างต่อเนื่องจนดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนักธุรกิจจีนที่ชื่อ เฮียเก้า เป็นการส่วนตัว และที่ผ่านมาหากพบส่งผิดปกติก็ตรวจสอบทันที เพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยให้ฟังทุกเรื่องที่ดำเนินการ



ที่จริงแล้ว ก่อนหน้าที่คณะเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์จะไปที่กระทรวงยุติธรรมนั้น พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เปิดเผยว่าอธิบดีกรมปศุสัตว์ต้องการมาชี้แจงการปฎิบัติงาน ตั้งแต่ที่ยังรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ซึ่งขณะนั้นมีสินค้าหมูเถื่อนแฝงเข้ามาในรูปแบบของปลา อาหารทะเลแช่แข็ง รวมถึงมาชี้แจงเรื่องนักธุรกิจส่งออกตีนไก่สวมสิทธิ์สินค้าไทยไปประเทศจีน ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์สินค้าไทยด้วย ซึ่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ ต้องการยืนยันว่ดำเนินการแก้ไขปัญหามาตลอด



ส่วนการคลี่คลายคดีเหล่านี้ของดีเอสไอ พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า พนักงานสอบสวนจะรับฟังทุกคำชี้แจง แต่จะยึดมั่นให้พยาน หลักฐาน เป็นหลัก



สำหรับคดีตีนไก่เถื่อนส่งไปจีน เป็นคดีพิเศษที่ 127/2566 ซึ่งเป็นการขยายผลต่อเนื่องจากคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ โดยดีเอสไอพบว่าบริษัท ชิปปิ้งที่นำเข้าสินค้าหมูเถื่อนบางราย เคยทำธุรกิจนำเข้าและส่งออก ตีนไก่ไปประเทศจีนให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ด้วย ทำให้ดีเอสไอได้หลักฐานมากขึ้น



ขณะเดียวกันเมื่อเช้านี้ มีพยานสำคัญในคดีการนำเข้าตีนไก่และส่งไปจีน เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อเข้ารับการคุ้มครองพยาน โดยระบุว่าเขาถูกผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ใน 5 คน ที่ดีเอสไอออกหมายจับเมื่อสัปดาห์ก่อน ข่มขู่คุกคามจะเอาชีวิต จึงขอให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พาตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อรับการคุ้มครอง