เปิดรูปแบบแก๊งยิง 'เด็กอุเทนฯ-ครูเจี๊ยบ' พบเสมือน 'องค์กรอาชญากรรม' มีกันนับร้อย

เรื่องการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมในคดียิงนักศึกษาอุเทนถวายจนเสียชีวิต และกระสุนยังไปถูกครูเจี๊ยบเสียชีวิตไปอีกคนหนึ่ง เหตุเกิดย่านคลองเตย ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กระทั่งวันนี้ ตำรวจสืบสวนนครบาล ได้วางแผนเข้าตรวจค้น 6 จุด จนสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 8 คน และเตรียมขยายผลไปยังคนบงการ ให้ทุนในการก่อเหตุ จัดหาเซฟเฮาส์ให้ ในลักษณะคล้ายองค์กรอาชญากรรม



ปฏิบัติการของตำรวจสืบสวนนครบาล ที่เก็บข้อมูล ตามแกะรอยมา 11 วัน ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เช้ามืด ก่อนที่ในช่วงสายวันนี้ จะทยอยนำตัวผู้ต้องหา 8 คน มาสอบสวนเพื่อขยายผลไปให้ถึงคนให้ทุน และคนบงการ ให้ก่อเหตุตระเวนยิงนักเรียนสถาบันคู่อริ



ผู้ต้องหาในกลุ่มนี้ มีอายุตั้งแต่ 20-25 ปี นอกจากจะเกี่ยวข้องกับคดียิงนักศึกษาอุเทนถวาย และครูเจี๊ยบแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับคดียิงนักศึกษาอุเทนถวาย ที่หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเดือนมกราคมปีนี้



ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนนครบาล ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 6 ใน 8 คน ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือ "ซ่องโจร "



ส่วนอีก 2 คน ถูกนำตัวส่ง สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปก่อนหน้านี้ ตามหมายจับเก่า ที่เคยก่อคดีก่อนหน้านี้



นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ถูกออกหมายจับในคดียิงครูเจี๊ยบ-น้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวาย อีก 1 คน เป็นคนที่ 9 ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ได้เกิดอาการช็อกจึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ไปเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา



11 วัน หลังเกิดเหตุ จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 8 คนในวันนี้ เริ่มต้นจากการแกะรอยคนร้าย ด้วยการตามดูกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางการหลบหนี ซึ่งต้องดูมากกว่า 1,000 ตัว ซึ่งคนร้ายก็รู้ดีว่า ตำรวจจะใช้วิธีแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จึงขับหลอกล่อไปที่โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง ย่านร่มเกล้า เพื่อให้ตำรวจเข้าใจผิด คิดว่า นักศึกษาแห่งนั้น เป็นคนลงมือยิงนักศึกษาอุเทนถวาย และยังจัดเตรียมรถแวน เพื่อใช้บรรทุกอำพรางรถจักรยานยนต์ ออกจากจุดที่มีกล้องวงจรปิด ก่อนพาส่งเซฟเฮาส์ ที่เชื่อว่า มีนายทุนเช่าไว้ให้หลบซ่อน



ตำรวจสืบสวนนครบาล จู่โจมทันทีเข้าค้นหลังหนึ่งย่านวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ หลังข้อมูลสืบสวนพบว่า บ้านหลังนี้คือ เซฟเฮาส์ หรือ ที่ซ่องสุมกำลังของกลุ่มเด็กช่างกล



เมื่อเปิดเข้าไปในห้องก็พบ เด็กวัยรุ่นหลายคนนอนรวมกันอยู่ ขณะเดียวกัน ทีมปฏิบัติการอีกที่เฝ้าอยู่ที่หน้าบ้านเอื้ออาทร ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เข้าล็อกตัวผู้ต้องหาอีกคนทันที นี่คือ ปฏิบัติการ ปิดเมืองล่ามือปืน 6 จุด ในกรุงเทพและปริมณฑล



จากนั้นกำลังทั้งหมดเข้าค้นที่ห้องพักชั้นบนของอาคาร ตรวจสอบในห้องพักเครื่องแบบของสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับคุมตัวบุคคลในห้องมาสอบสวน



พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกับข่าว 3 มิติว่า เมื่อเกิดเหตุชุดสืบสวนทั้งหมดแบ่งงานกันตามล่าทันทีรวจสอบทั้งหลังและก่อนก่อเหตุ



นี่คือ หลักฐานชิ้นหนึ่งที่คน้รายทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ตำรวจ รถกระบะแวนคันนี้ คือ รถยนต์ต้องสงสัยที่เชื่อมโยงกับกลุมก่อเหตุ



รถคันนี้ไปปรากฏที่ซอยแห่งหนึ่งใกล้สถานีรถไฟบางซ่อน ในวันที่ 9 พฤษจิกายน เวลา 8 นาฬิกา 18 นาที



ด้านหลังมีผ้าใบพลาสติกปิดอยู่ จุดที่พบรถวนเวียนอยู่ไม่ไกลจากเซฟเฮาส์ ตำรวจ ระบุว่า นี่คือ การซ้อมแผนก่อนลงมือปฏิบัติจริง



พื้นที่อ.ไทรน้อยจ.นนทบุรี มีข่าวว่า พบรถยนต์คันที่คนร้ายใช้ร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักตรวจภายในและนอกรถเพื่อเก็บลายนิ้วมือแฝง และตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อนำไปตรวจหา DNA



และนี่คือ หลกฐานที่ถูกทิ้งไว้ในรถ มีทั้งเสื้อยืด แผ่นป้านทะเบียนรถจักรยานยนต์ และซองใส่อาวุธปืน เจ้าหน้าที่พิสูจน์บอกว่า พบลายนิ้วมือจำนวนมาก



รถยนต์กระบะแวนคันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ใช้อำพรางการก่อเหตุสิ่งเดี่ยวเท่านั้น พล.ต.ต.ธีรเดช ยังบอกกับทีมข่าวอีกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าหลังก่อเหตุเสร็จ มือปืน ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปโรงเรียนอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่งย่านร่มเกล้ว เขตลาดกระบัง โดยมีการขับวนเวียนอยู่หลายรอบ เพื่อสร้างพยานหลักฐานเท็จ และยังมุ่งหวังโยนความผิดไปให้โรงเรียนอาชีวะที่อยู่ใกล้อีกด้วย