สังคม

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ บ.แวกซ์ กาเบ็จฯ ชดใช้ค่าเสียหาย บำบัดสิ่งแวดล้อม

โดย panisa_p

15 พ.ย. 2566

87 views

อุทธรณ์ยกคำอุทธรณ์ของโจกท์และจำเลย และให้ยืนตามศาลชั้นต้น ในคดีที่ชาวตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ชนะคดีที่ฟ้องแพ่ง บริษัทแวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิลเซนเตอร์ กรณีกล่าวหาว่าทำให้เกิดปัญหามลพิษ โดยศาลระบุว่าค่าชดเชยเยียวยาแก่ชาวบ้านที่ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยต้องจ่ายนั้นเหมาะสมแล้ว ขณะที่ข้อมูลหลักฐานของ บริษัท แวกซ์กาเบ็จ ที่ยื่นอุทธรณ์มา ไม่อาจหักล้างการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วได้



นางเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ และทนายความที่ว่าความให้ชาวตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า หลังจากก่อนหน้านี้โจทก์ทั้ง 3 พร้อมชาวตำบลน้ำพุ ได้ฟ้องคดีแบบกลุ่ม หรือคลาสแอคชั่น กล่าวหาบริษัทแวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จ.ระยอง ก่อมลพิษในลำห้วยน้ำพุ จนกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำเกษตร จึงฟ้องคดีทางแพ่งให้โรงงานรับผิดชอบ ซึ่งศาลชั้นต้น พิพากษาให้โรงงานชดใช้ เยียวยาต่อความเสียหายของโจทก์ และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ



ต่อมา ฝ่ายบ้านที่เป็นโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ขอให้พิจารณาเกณฑ์การเยียวยาใหม่ ที่ไม่ใช่เกณฑ์การเสียหายจากภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือมนุษย์ เช่นเดียวกับโรงงานเป็นจำเลย ก็อุทธรณ์ว่าไม่ใช่ผู้ก่อมลพิษและไม่ได้มีเจตนา และวันนี้ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษา โดยยกคำร้องอุทธรณ์ของทั้งสองฝ่าย โดยระบุว่าเกณฑ์การพิจารณาค่าชดเชยที่ชาวบ้านต้องได้รับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น เหมาะสมชัดเจนแล้ว ให้จำเลยชำระตามคำพิพากษานั้น



ขณะเดียวกันก็ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลย ที่นำหลักฐานยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ก่อมลพิษและไม่มีเจตนา ซึ่งศาลอุทธรณ์ระบุว่า หลักฐานและคำอุทธรณ์ ไม่อาจหักล้างที่เกิดขึ้นแล้วได้ ให้จำเลยแก้ไขฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งภายในโรงงาน และนอกโรงงานที่เป็นพื้นที่ของโจทก์ ถ้าจำเลยไม่ดำเนินการโจทก์สามารถให้บุคคลที่ 3 เข้าไปดำเนินการแทนได้ และเรียกร้องค่าดำเนินการจากจำเลย



หนึ่งในโจทก์ระบุว่า ฝ่ายชาวบ้านจะไม่ยื่นฎีกาแล้ว และได้หารือกันว่า หากจำเลยไม่แก้ไขสภาพแวดล้อมตามศาลสั่ง จะยื่นให้บุคคลที่สาม คือกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าไปฟื้นฟูเยียวยาสภาพแวดล้อมของโจทก์ สำหรับคำตัดสินศาลอุทธรณ์ดังกล่าว ทั้งโจทก์และจำเลย มีเวลายื่นฎีกา 30 วัน นับจากมีคำพิพากษา ซึ่งก็คือวันนี้

คุณอาจสนใจ

Related News