'เสี่ยบิ๊ก' แจงทุกข้อกล่าวหา ยันไม่เจตนาบรรทุกน้ำหนักเกิน สติกเกอร์ดาวเขียว เอี่ยวดวง ไม่เอี่ยวส่วย

ความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกดินเหนียว ตกลงในท่อร้อยสายไฟใต้ดินของการไฟฟ้า ที่ซอยสุขุมวิท 64/1 ล่าสุดตำรวจได้คุมตัวเจ้าของรถพิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมแจ้งข้อหา โดยเจ้าตัวยืนยันว่าสติกเกอร์หน้ารถคนดังกล่าวเป็นคนออกแบบด้วยตัวเองเพราะมีความเชื่อเรื่องดวง และไม่ทราบว่ารถบรรทุกน้ำหนักเกินเนื่องจากกะด้วยสายตา



พนักงานสอบสวน สน.พระโขนงได้ควบคุมตัวตัวนาย วุฒิภัทร จันทรินทรากร หรือ "เสี่ยบิ๊ก ดาวเขียว" เจ้าของรถบรรทุกที่เกิดอุบัติเหตุตกบ่อพักสายไฟฟ้าบริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 มาพิมพ์ลายนิ้วมือและแจ้งข้อหา "ใช้บุคคลอื่นกระทำความผิด" โดยเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัว ก่อนที่วันพรุ่งนี้ตำรวจจะนำตัวไปผัดฟ้องที่ศาลอาญาพระโขนง



นายวุฒิภัทร หรือ เสี่ยบิ๊ก ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ป้ายเสี่ยอั่งเปา เป็นชื่อของลูกชาย และได้เปลี่ยนมาเป็นเสี่ยบิ๊ก เพราะความเชื่อตามหมอดู เพื่อให้กิจการรุ่งเรือง หลังธุรกิจไม่ค่อยประสบความสำเร็จ



ส่วนสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว นายวุฒิภัทร ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วย แต่เพราะ ชื่อบิ๊ก อักษรย่อจึงเป็นตัวบี และ เกิดวันพุธจึงใช้สีเขียว ส่วนสัญลักษณ์ดาวเกิดจากความเชื่อว่าจะทำให้เป็นดาวรุ่งในสายอาชีพนี้ โดยประกอบอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี 2561 มีรถบรรทุกทั้งหมด 3 คัน และทุกคันติดสติกเกอร์นี้ เพื่อให้ทราบว่ารถเป็นของใคร ต้องเก็บเงินค่าขนดินกับใคร ไม่ใช่เพื่อการเคลียร์เส้นทางตามที่ถูกกล่าวอ้าง



ขณะที่น้ำหนักของรถบรรทุก เสี่ยบิ๊กระบุว่า ไม่ทราบว่าน้ำหนักที่บรรทุกมาเกินหรือไม่ เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทุกครั้งที่มีการตักดินใส่รถ จะใช้วิธีการคาดคะเนด้วยสายตา โดยไม่ได้ชั่งน้ำหนักก่อนแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาก็ใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ มาสักระยะหนึ่งแล้ว และตอนนี้ได้ส่งมอบหลักฐานให้กับทางตำรวจเพื่อตรวจสอบต่อไป



พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหารถบรรทุกวิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร



นาย ชัชชาติ เปิดเผยว่า ปัญหาในตอนนี้ มี 2 เรื่อง คือ การเดินรถนอกเวลา และ การบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กำหนด เพราะที่ผ่านมาทาง กทม.ไม่เคยจับรถบรรทุกที่ผิดกฎระเบียบมาก่อน จึงได้สั่งให้ตั้งศูนย์ตรวจน้ำหนักรถบรรทุกในพื้นที่กทม. พร้อมขอความร่วมมือกรมทางหลวง สนับสนุนการให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ กทม. และ การใช้อุปกรณ์การชั่งน้ำหนักแบบเคลื่อนที่ รวมทั้งให้ตำรวจดูเรื่องข้อกฎหมาย หากพบรถคันไหนฝ่าฝืนจะดำเนินคดีกับเจ้าของรถบรรทุก และยึดรถ โดยวันนี้กทม. ได้ร่วมกับกรมทางหลวงออกตรวจรถบรรทุกน้ำหนักเกินบริเวณถนนเทพารักษ์ พบรถบรรทุกดิน 2 คัน มีน้ำหนัก 34 ตัน และ 28 ตัน ซึ่งถือว่าเกินอัตราที่กำหนด



จากนี้ทางกทม.จะนำระบบการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกด้วยระบบ weigh in motion มาใช้ทันทีที่สรุปผลการศึกษาเสร็จสิ้นใน 10 จุดทั่วกรุงเทพฯ หากประชาชนพบเห็นปัญหาร้องเรียนรถบรรทุกก็สามารถแจ้งผ่านช่องทาง ทราฟฟี่ฟองดูวได้ทันที