แกะรอยปมส่วยข้ามแดน หลังข่าวกะเหรี่ยงขู่ปิดด่าน ฉุนตร.ไทยรีดส่วยหนัก

หลังจากวันที่ 3 พฤศจิกายน มีกระแสข่าวความไม่พอใจของ ผบ.กองกำลังกะเหรี่ยง เรื่องมีตำรวจไทย 10 นาย ข้ามแดนไปเจรจาเรียกเก็บส่วย โดยขึ้นจากราคาที่เคยเก็บสูงมาก กองกำลังกะเหรี่ยงจึงประกาศขู่จะปิดด่าน 3 เดือน จนกระทั่ง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งให้สอบสวนข้อเท็จจริง รวมทั้งระบุชื่อตำรวจระดับสูงในคำสั่งดังกล่าวด้วย เมื่อข่าวถูกนำเสนอผ่านสื่อหลายวันต่อเนื่อง จู่ๆวันนี้ ก็ปรากฏข่าวว่า ฝ่ายกะเหรี่ยง ยืนยันไม่เคยขู่ว่าจะปิดด่าน และยังระบุว่า ไม่เคยมีตำรวจข้ามแดนไปเรียกเก็บส่วย หลายฝ่ายจึงสงสัยว่า มีการเจรจาสมยอมกันทั้งสองฝ่ายหรือไม่



คำยืนยันของชุดตรวจสอบข้อเท็จ ตำรวจภูธรภาค6 ให้การยืนยันว่า ไม่มีตำรวจในสังกัดเดินทางออกนอกประเทศข้ามไปยัง ชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ของกองกำลังกะเหรี่ยง BGF ดูแล ที่สำคัญไม่มีการเจรจาเรียกรับผล หรือส่วยข้ามแดน



เอกสารฉบับนี้ น่าเป็นเอาการสารที่ชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงอ้างถึง เพราะตัวแทนทหารกะเหรี่ยงที่ข้ามมารือ คือ พะแค



หนังสือฉบับนี้ ลงวันที่ 3 พฤษจิกายน 2566 ในหนังสือมีทั้งภาษาจีน พม่า และอังกฤษ



เนื้อความในจดหมาย ระบุ ห้ามข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ตั้งแต่ วันที่ 3 พฤษจิกายน 2566-3 ธันวาคม2566 คนไทย จีน และชาติอื่นๆที่จะข้ามไปเมืองใหม่รฐิตา ชเวโก๊กโก่ เมียนมา ถูกปิดชั่วคราว 1 เดือน ในหนังสือยัง ระบุมาตราการจัดการกับผู้ฝ่าฝืน จะถูงลงโทษอย่างรุนแรง และถูกจัดการ



ซอ พะ ห่าว กับ พะแคะ เป็นใคร จึงมีอำนาจตัดสินใจเรื่องการผ่านแดน ข้อมูลจากสายข่าวระบุว่า ซอ พะ ห่าว คือ ชื่อจริงของพะแคะ และซอพะห่าว เป็นน้องชายของ พอ.หม่องวิน ผู้ที่ดูแล ชเวโก๊กโก่ เป็นที่น่าสักเกตว่า หนังสือที่ออก เป็นวันเดียวกันที่มีข่าวว่า ตำรวจของไทยกลุ่มหนึ่งข้ามฝั่งไปเจรจา เรียกเก็บผลประโยชน์หรือส่วยข้ามแดน



ทีมข่าว ลองขับรถลัดเลาะตามริมน้ำเมย อ.แม่สอด ไปอ.แม่ระมาด สภาพของประเทศไทย กับ เมียนมา แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฝั่งเมียนมา ตึกสูงขึ้นเต็มไปหมด ขณะที่ฝั่งไทย ยังเป็นชุมชน พื้นที่เกษตร และท่าข้ามแม่น้ำ



ท่าข้ามช่องทางธรรมชาตินี้คือจุดผ่อนปรน เพื่อให้ส่งออก-นำเข้า สินค้า การนำพาคนข้ามประเทศแบบผิดกฏหมายจะเกิดขึ้นบริเวณช่องทางธรรมชาติ



อักษรภาษาจีนที่ติดอยู่ข้างอาคารสูงหลังนี้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า เป็นของกลุ่นทุนจีน



อาคารสูงที่กำลังก่อสร้างนี้ ก็น่าจะเป็นของกลุ่มทุ่นจีนอีกเช่นกัน เพราะชเวโก๊กโก่ ถือเป็นเมืองใหม่ขนาดใหญ่ที่กำลังขยายตัว นั่นอาจหมายถึง กลุ่มคนจีน และคนชาติอื่นจะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ ชเวโก๊กโก่ เป็นจำนวนมาก



บ้านวังผา นี้มีคนให้ข้อมูลว่า กลุ่มคนนำพาคนข้ามแดนอยู่ในหมู่บ้านนี้ และบริเวณใกล้ๆซึ่งเป็นที่ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด ที่มีตามที่มีกระแสข่าว ว่าเป็นจุดที่ข้ามแดนไปเมียนมา