สังคม

มูลนิธิปวีณา ส่งมอบข้อมูลคนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ในเมียนมา เร่งช่วยพากลับบ้าน

โดย panwilai_c

8 พ.ย. 2566

47 views

ข่าว 3 มิติ ได้เดินทางไปติดตามความพยายามช่วยเหยื่อการค้ามนุษย์ ในเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา มาสองวันต่อเนื่อง ขณะที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเหยื่อหลายสิบราย จึงนำข้อมูลทุกฝ่าย มาบูรณาการ เพื่อทำให้การช่วยเหลือคนไทย ออกจากเมืองเล่าก์ก่ายได้อย่างปลอดภัย และครบถ้วน ไม่มีใครตกหล่น



นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เข้าร่วมประชุมกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับร้องเรียนส่งต่อให้ทางการรับไปดำเนินการ เป็นข้อมูลของผู้หญิงไทย ที่ถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศเมียนมา และถูกหลอกไปเป็นเหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเล่าก์ก่าย เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ซึ่งเหยื่อได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ตั้งแต่ต้นปีนี้จำนวน 87 คน แบ่งออกเป็นคอลเซ็นเตอร์ 62 คน ถูกบังคับค้ามนุษย์ค้าประเวณี 25 คน



เมื่อสองวันที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางไปกรุงย่างกุ้ง เพื่อเจรจาช่วยเหลือ จนมีข้อมูลว่า คนไทย 162 คน ถูกนำออหมายังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว และอีก 74 คน ยังรอการเคลื่อนย้าย มูลนิธิปวีณาฯ จึงขอทราบรายชื่อเหยื่อที่ได้รับการช่วยเหลือครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบรายชื่อว่า ในกลุ่มที่ร้องเรียนกับมูลนิธิฯ อยู่ในกลุ่มที่รัฐบาล กำลังช่วยนำกลับประเทศกี่คน



ด้านนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ให้สัมภาษณ์ในฐานะตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ได้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในเมียนมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับข้อมูลจากนางปวีณา เพื่อตรวจสอบ และดำเนินการต่อไป



ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวว่า หลังจากได้เดินทางไปหารือกับรัฐบาลเมียนมา เพื่อเร่งขอความช่วยเหลือคนไทยออกจากพื้นที่ที่มีการสู้รบ โดยล่าสุด สามารถช่วยเหลือคนไทยออกมาได้แล้วจำนวน 162 ที่เหลือ 74 คน ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจากตัวอาคารได้ เนื่องจากถูกนายจ้างชาวจีนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงไม่กล้าเคลื่อนย้ายออกมา เกรงจะเกิดการสูญเสียระหว่างการเคลื่อนย้ายหากถูกโจมตี



รอง ผบ.ตร.ยังได้ระบุว่า ได้แบ่งคนไทย ที่กำลังจะได้รับการช่วยเหลือออกมาเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่สมัครใจไปทำงานที่พบว่ามีอยู่กว่า 70% เพราะมีรายชื่อว่าเคยถูกช่วยเหลือออกมาจากกัมพูชามาแล้วก่อนหน้านี้ จะต้องถูกดำเนินคดีในไทย และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่ถูกหลอกจริงๆ ซึ่งเป็นรายชื่อใหม่มีเพียง 30% เท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News