ยืดเยื้อกว่า 13 ปี! ชาวบ้านร้อง จนท.ออกโฉนดทับที่สาธารณะ จนถูกจำคุก ล่าสุดเตรียมรังวัดที่ดินใหม่

7 ปีที่แล้วมีชาวบ้านรายหนึ่งร้องเรียนให้ข่าว 3 มิติ ช่วยตรวจสอบการขอออกโฉนดที่ดินแปลงหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินผิดพลาด และออกโฉนดทับที่สาธารณะ จนกลายเป็นข้อพิพาทฟ้องร้องระหว่างตัวเขาและเจ้าของที่ดินข้างเคียง เพราะระบุแนวเขตไม่ตรงกัน จนท้ายที่สุดเขาถูกพิพากษาจำคุก 3 เดือน โฉนดที่อ้างว่าถูกออกอย่างไม่ถูกต้อง เพราะทับซ้อนกับที่ดินสาธารณะของชุมชน โดยมีหลักฐานเป็นแนวท่อระบายน้ำเดิม และข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เขาจึงร้องเรียนทุกหน่วยงานและยื่นฟ้องศาลปกครอง จนปี 2563 มีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมาแล้ว 3 ปี ยังไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้น โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดสุพรรณบุรี ตอบกลับเป็นเอกสารระบุเพียงว่า ที่ผ่านมาดำเนินการทุกอย่างถูกต้องแล้ว

คำพิพากษาศาลปกครองสุพรรณบุรี และเอกสารระบุขอบเขตที่ดินของนายกำจร และที่ดินข้างเคียง ถูกนำมาแสดงในที่ประชุมร่วมระหว่างหน่วยงาน เช่น เทศบาลตำบลท่าระหัด เจ้าพนักงานที่ดิน และนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เพื่อหาข้อสรุปที่นายกำจร ร้องเรียนว่าการออกโฉนดเมื่อปี 2553 ทำอย่างไม่ถูกต้อง จนกลายเป็นต้นเหตุให้เกิดการฟ้องร้อง จนต้องต่อสู้ขอความเป็นธรรมมานานกว่า 13 ปี


สิ่งที่ทำให้นายกำจร มั่นใจว่าต้นเหตุเรื่องนี้คือความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐ คือคำพิพากษาของศาลปกครองสุพรรณบุรี เมื่อปี 2563 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 คือ อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้น ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน นั่นคือการเริ่มกระบวนการรังวัดที่ดินแปลงที่เป็นข้อพิพาทใหม่ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายใน 15 วัน แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี ยังไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้น โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดสุพรรณบุรี ชี้แจงเป็นเอกสารว่าดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนแล้ว


ข้อพิพาทนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2553 เมื่อนายบัณฑิต เจ้าของที่ดินข้างเคียง ซึ่งซื้อต่อจากพ่อของนายกำจร ได้ขอรังวัดที่ดินเพื่อออกโฉนด แต่มีแนวเขตเกินไปในที่ดินสาธารณะประมาณ 20 ตารางวา


นายกำจร พยายามร้องเรียนว่า บุกรุกที่สาธารณะ เพราะเกินแนวเขตท่อระบายน้ำของชุมชน และขอให้เพิกถอนโฉนด จนเกิดการฟ้องร้องระหว่างนายกำจรและที่ดินข้างเคียง จนศาลพิพากษาจำคุกนายกำจร 3 เดือน แต่ให้รอลงอาญา พร้อมโทษปรับ


ในขณะนั้นข่าว 3 มิติ พยายามหาคำตอบจนพบว่า อาจเป็นเพราะใช้หลักฐานจากโฉนดเก่าในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นตัวกำหนดแนวเขต การหักพื้นที่คืนบางส่วนอาจทำให้แนวเขตคลาดเคลื่อนไปจากเดิม แม้จะพบต้นเหตุที่อาจเป็นจุดผิดพลาด แต่ขณะนั้นก็ไม่มีการรังวัดที่ดินใหม่


ปี 2559 นายกำจร ที่กำลังบวชเป็นพระภิกษุ ไปร้องเรียนอีกครั้งกับอธิบดีกรมที่ดิน จนมีคำสั่งให้ตรวจสอบการออกโฉนดแปลงนี้อีกครั้ง แต่สำนักงานที่ดินสุพรรณบุรีแจ้งว่า โฉนดออกถูกต้องแล้ว นายกำจรจึงตัดสินใจฟ้องศาลปกครอง เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด


ข้อมูลสำคัญจากผู้ใหญ่บ้าน ที่ระบุว่าข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมานานกว่า 13 ปี อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการรังวัดออกโฉนด แต่กลับถูกละเลย ไม่แก้ไขให้ถูกต้อง ทำให้ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เตรียมรังวัดที่ดินแปลงนี้ใหม่ เพื่อตรวจสอบว่า เป็นการออกโฉนดที่ถูกต้องหรือไม่