ปกครอง บุกทลาย 2 ผับเถื่อนภูเก็ต หลังถูกร้องลอบเปิดถึงเช้า-ปล่อยเยาวชนมั่วสุม

มีประชาชนเเละกลุ่มผู้ปกครองที่ภูเก็ต ร้องเรียนไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เเละอธิบดีกรมการปกครอง ช่วยตรวจสอบเเละบังคับใช้กฎหมายกับสถานบันเทิง 2 เเห่ง ในพื้นที่อำเภอกะทู้ ซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบเปิดจนถึงเช้า ส่งเสียงดัง-รบกวนผู้ที่พักอาศัยละเเวกใกล้เคียง ล่าสุด ถูกดำเนินคดีเเละเสนอให้ผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งปิดเเล้ว หลังทีมสายลับจาก "ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง" ตรวจพบว่าทั้ง 2 เเห่ง อยู่นอกโซนนิ่ง-เป็นผับเถื่อนไม่มีใบอนุญาต เเละยังปล่อยให้เยาวชนเข้าไปมั่วสุมจำนวนมาก เเละผลจากปฏิบัติการครั้งนี้ ทำให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งย้าย 5 นายตำรวจสภ.กะทู้ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนกรณีมีกลุ่มผู้ร้อง อ้างพบการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐ



ล่วงเลยมาจนตีสามสามนาที ดนตรีสด ยังคงสลับกับดีเจ เปิดเพลงสร้างความคึกคัก-เอนเทอร์เทนเหล่าบรรดานักเที่ยว ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ผู้ปกครองร้องเรียน พบมีสถานบันเทิงอย่างน้อย 2 เเห่ง ที่ภูเก็ต ลักลอบเปิดให้ดื่มกินเเละสนุกกันยาว ๆ จนฟ้าสาง



ตีสามครึ่ง ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เเละสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจากส่วนกลาง เคลื่อนกำลังเข้าพื้นที่เป้าหมายทั้ง 2 เเห่ง ตั้งอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้าม บริเวณเเยกกะทู้ ชื่อ"ราตรี คลับ" กับ "มหานครภูเก็ต"



เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ ขอความร่วมมือทั้งนักเที่ยว พนักงาน การ์ด เเละเจ้าของผับ ขอให้เเสดงบัตรเเละไม่อนุญาตให้ออกไปนอกร้าน หลังพบมีบางส่วน พยายามหนีออกด้านหลังเเละทางหนีไฟ



เจ้าหน้าที่พบว่าทั้ง ราตรีคลับ เเละมหานครภูเก็ต เป็นผับเถื่อนตั้งอยู่นอกโซนนิ่ง เเละไม่มีใบอนุญาต เเม้จะใกล้รุ่งสางเเล้ว เเต่ก็พบนักเที่ยวกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเเละไม่ตรวจบัตร ที่น่าสนใจก็คือในจำนวนนี้ มีนักเที่ยวที่เป็นเยาวชน อายุตั้งเเต่ 17-19 ปี ไม่น้อยกว่า 10 คน เข้ามามั่วสุมดื่มกินในร้าน



ทั้ง 2 ร้าน ถูกเเจ้งหลายข้อหา โดยเฉพาะมหานครภูเก็ต หลัก คือตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต / ขายเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เกินเวลา จำหน่ายสุราให้เยาวชน ยุยงส่งเสริมให้เยาวชนประพฤติตัวไม่เหมาะสม พร้อมเสนอผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งปิดสถานบริการ



หลังคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินคดี ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจตรีเสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรงจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งให้ย้าย 5 เสือ สภ.กะทู้ ตั้งเเต่ระดับผู้กำกับไปจนถึงสารวัตร ออกจากท้องที่รับผิดชอบ โดยให้ขาดจากตำเเหน่งเดิม มีผลทันที



พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนจ้อเท็จจริง หลังมีผู้ร้องบางราย อ้างพบข้อมูลส่วยที่ต้องจ่ายกันเดือนละไม่ต่ำกว่าครึ่งล้าน