ตร.ขอศาลอนุมัติหมายจับ 'แอม' เพิ่มอีก 1 คดี - เปิดไทม์ไลน์การเสียชีวิตครูวัย 39 อย่างมีเงื่อนงำ หลังร่วมวงแชร์

เจาะปมการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของบุคคลกว่า 10 คน ที่เคยเกี่ยวข้องกับแอม สรารัตน์ มาก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเสียชีวิตกระทันหันคล้ายๆกันอย่างน้อย 13 ราย โดยมีรายงานล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ว่าพนักงานสอบสวน ได้ รวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับนางสาวสรารัตน์ เพิ่มอีกคดี นับเป็นรายที่ 3 ที่ตำรวจมีหลักฐานว่า ถูกนางสาวสรารัตน์วางยาพิษจนถึงแก่ความตาย


โดยรายนี้ เป็นการเสียชีวิตของ นางสาวรจรินทร์ นิลห้อย หรือเจ๊น้อยผัก อายุ 39 ปี ที่เสียชีวิตในร้านขายผัก ที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 วันเดียวกับที่ผู้กองนุ้ย กรณีนี้ มีทั้งเล่นแชร์ และกู้ยืมเงินหลายหมื่นบาท


ส่วนอีก 2 คดี ที่ศาลอนุมัติหมายจับไปแล้ว ที่ผลชันสูตร ยืนยันพบไซยาไนด์ในเลือด ทั้ง 2 รายคือกรณีของนางสาวก้อยและอดีตสารวัตรปู ทำให้ขณะนี้ ตำรวจมีหลักฐานแล้ว 3 ราย จากทั้งหมดที่เข้าแจ้งการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ หลังไปทำธุรกรรมทางการเงินและเกี่ยวข้องกับนางสาวสรารัตน์ ทั้งหมด 13 คน


ขณะเดียวกันนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานเหยื่อคดีแอมไซยาไนด์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามในคดีก้อย ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน บริเวณริมน้ำ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี


นายรพี เปิดเผยว่า ให้ข้อมูลเหตุการณ์การเสียชีวิต รวมทั้งนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่เห็นแอมขับรถมารับก้อย ออกจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม พร้อมไทม์ไลน์การติดต่อกับพี่สาวก้อย หลังจากก้อยเสียชีวิตแล้ว มอบให้กับตำรวจ


ทั้งนี้ฝากไปถึงกระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจสอบ ข้อมูลย้อนหลังการเสียชีวิตในลักษณะดังกล่าวของเหยื่อทั้งหมด ไปถึงปี 2558 โดยเฉพาะกรณีที่เสียชีวิตจากสาเหตุหัวใจล้มเหลว ว่า จะมีความเชื่อมโยงคดีแอมหรือไม่


ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม บอกว่า วันพรุ่งนี้ ได้เชิญบุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นคนที่แอม เคยไปปรึกษาถามข้อมูลเกี่ยวกับคนที่มีอาการหัวใจล้มเหลวว่า มีอาการเป็นเช่นไร มาสอบปากคำเพิ่มเติม


ส่วนเรื่องการทำธุรกิจรับจำนำรถของผู้ต้องหาขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลจากข้อมูลที่ทราบว่าผู้ต้องหาได้นำรถของแด้ อดีตสามีหายไป แต่ในส่วนของผู้เสียชีวิตคนอื่น ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น


ยอมรับว่าขณะนี้แนวทางการสืบสวนในคดีที่ทำงานร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 แล้วชุดสืบสวนของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นไปในทิศทางที่ดี และคดีมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง


ส่วนนางสาว ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม เปิดเผยว่า ยังจะเดินหน้าทำคดีให้กับแอมต่อไป ไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่รับผิดชอบเพียงแค่คดีการเสียชีวิตของก้อยเพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นตนยังไม่ได้ถูกว่าจ้าง ซึ่งแอมอาจจะไปจ้างทนายความคนอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจ


ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจ และตามกระบวนการของคดีอาญา จำเลยก็มีสิทธิที่จะต้องแก้ต่างในสิ่งที่โจทก์ฟ้องมา โดยการนำพยานหลักฐานมาคัดค้านพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์อยู่แล้ว ซึ่งมั่นใจในการต่อสู้คดีนี้ เพราะได้วางแนวทางเอาไว้แล้ว และตอนนี้ก็รู้ความบกพร่องของฝ่ายโจทก์ด้วยว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น