แกะรอยหลักฐานหาข้อเท็จจริงโยงผู้ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้งสารเคมี

เหตุผลที่ข่าว 3 มิติ เกาะติดประเด็นนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นเพราะน้อยครั้งมากที่จะนำคนผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายได้ ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทเหล่านี้มีผู้อยู่หนุนหลัง ทั้งในทางธุรกิจและกฎหมาย และส่วนหนึ่งก็ใช้นอนิมีทำธุรกรรมในสัญญาเช่าต่างๆ โดยไม่เปิดเผยตัวตน แต่ก็มักทิ้งความเดือดร้อนให้นอมินีเหล่านั้นด้วยทันที

ที่คนขับรถบรรทุกสารเคมี สารภาพว่าผู้จัดการฝ่ายปฎิบัติการโรงงานชื่อสุทธินันท์คือคนว่าจ้างให้นำสารเคมีจากโกดังในอำเภอภาชี ไปทิ้งที่แก่งคอยตำรวจภูธรแก่งคอย ได้ขอหมายค้นเข้าไปหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่นอกจากไม่พบตัวนายสุทธินันท์แล้ว ก็ยังไม่พบพนักงานคนอื่นๆด้วย เหลือเพียงแม่บ้านและรปภ. ที่ให้คำตอบว่าไม่มีใครมาทำงาน แล้ว แต่ข่าว 3มิติ ก็เห็นว่าขณะนั้นมีบัตรพนักงานประมาณ 21 ใบ ตอกบัตรลงเวลาทำงาน


กรมโรงงานอุตสาหรรม ระบุว่า บริษัทได้ไปชี้แจงที่กรมฯว่านายสุทธิ์นันท์ลาออกไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน และกรณีที่นายสุทธินันทถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการทิ้งสารเคมีนั้น นายสุทธินันท์ทำโดยพละการ บริษัทไม่เกี่ยวข้อง


อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติได้หลักฐานว่า ในโทรศัพท์ของคนขับที่นำสารเคมีไปทิ้ง ได้สนทนาทางไลน์กับนายสุทธินันท์ และนายสุทธินันท์ ได้ส่งที่อยู่ของบริษัท ที่ให้ออกใบ กำกับภาษี ให้คนขับรถสารเคมีด้วย / จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่า หากนายสุทธินันท์ ลักลอบหรือทำโดยพละการ เหตุใดจึงจะออกใบเสร็จในนามบริษัท


ต่อนายสุทธินันท์ก็ถูกซัดทอดจากพนักงานหญิงคนหนึ่งที่เฝ้าโกดังสารเคมีในอำเภอภาชี ว่านายสุทธินันท์ คอยกำกับดูแลรถที่สารเคมีที่ออกเข้าโกดัง


สำหรับโกดังนี้ มีคำยืนยันชัดเจนจากเจ้าของโกดังว่า ชายคนหนึ่ง ชื่อโอภาส ติดต่อเจ้าของโกดังเมื่อกันยายนปีที่แล้วว่าจะเช่า ต่อมาก็อยากซื้อขาด เจ้าของโกดังจึงช่วยประสาน กับสถาบันการเงิน และยื่นหลักฐานของผู้จะกู้เพื่อขอสินเชื่อปรากฎว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นของบริษัทเอกอุทัย เจ้าของโกดังที่ถูกลักลอบเก็บสารเคมี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา


อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อทำให้ซื้อโกดังไม่ได้จึงต้องกลับมาเช่า /แต่การเช่าแยกเป็น 2 สัญญา คือบริษัทเพาะสอน จำกัด เช่าโกดังหลังที่ 1 ถึง 3 และชายอีกคน หนึ่งชื่อจตุวุฒิ เช่าโกดัง หลังที่ 4 กับ 5 ระบุว่าเช่าเพื่อจอดรถบรรทุก เจ้าของโกดังที่ถูกลักลอบเก็บสารเคมี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา


แต่อย่างไรก็ตาม ปรากฎหลักฐานว่ามีสลิปการโอนเงินของชายคนหนึ่งชื่อโอภาส โอนเข้าบัญชีเจ้าของโกดัง พร้อมข้อความระบุว่าโอนค่าเช่าโกดังของเดือนกันยา และตุลาคมปีที่แล้ว


หลังจากนั้น นายจตุวุฒิ ซึ่งเป็นคนเช่าโกดังหลังที่ 4 และ 5 ก็จะเป็นคนจ่ายค่าเช่าโกดังทั้ง 5 หลังทั้งหมด และแม้แต่ในเอกสารการขอใช้หม้อแปลงไฟฟ้าและน้ำประปาของโกดังนี้ ก็พบว่ามีชื่อนายจตุวุฒิ เป็นผู้ขอใช้งาน ไม่ปรากฎหลักฐานว่า บริษัทเพาะสอนได้ดำเนินการใดๆ ทั้งที่เป็นผู้ทำสัญญาเช่า


เมื่อทีมข่าว ตรวจสอบฐานข้อมูลของบริษัทเพาะสอนที่เป็นทำสัญญาเช่า พบว่า มีนายบุญเลิศ เป็นกรรมการ ประกอบกิจการเกี่ยวกับก่อสร้าง รับเหมาถมดิน ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ อยู่ที่ตำบลคลองกระจัง อ.ศรีเทพ เพชรบูรณ์ ท้องที่ตั้งเดียวกันกับ โรงงานฝังกลบขยะของบริษัทเอกอุทัย สาขาศรีเทพ


ข่าว 3 มิติตรวจสอบแล้วไม่พบว่านายบุญเลิศ หรือบริษัทเพาะสอน เป็นผู้จ่ายค่าเช่าที่ตัวเองทำสัญญา แต่กลายเป็นนายจตุวุฒิจ่ายแทนทั้งหมด ขณะที่นายบุญเลิศ เสมือนคอยดูแลโกดัง เพราะข่าว3มิติ ได้หลักฐานว่า มีบุคคลใช้ชื่อทางไลน์ว่าบุญเลิศ สั่งให้ก่ออิฐฉาบปูน ปิดช่องประตูที่ซุกซ่อนถังสารเคมี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพบและทุบเข้าไปตรวจสอบ


ตอนนี้หากนายบุญเลิศและบริษัทเพาะสอน ทำหน้าที่มาเช่าแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางการเงิน แล้วซึ่งเป็นส่วนสำคัญ จึงเกิดคำถามว่า นายจตุวุฒิ ที่เป็นคนจ่ายเงินค่าเช่าโกดังทั้ง 5 หลังนั้น มีความเกี่ยวโยงมากน้อยเพียงใดหรือไม่ กรณีนี้จึงยังเป็นปริศนา


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากทะเบียนพาณิชย์ ซึ่งไม่ใช่ความลับ ปรากฎว่า นายจตุวุฒิ เคยถือหุ้นบริษัทวินโพรเสส จ.ระยองมากถึง 4 ล้าน 1 แสน 3 หมื่นหุ้น / เป็นจำนวนหุ้นเท่ากัน กับที่ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งชื่อโอภาส เคยถือ


ข่าว 3 มิติ ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าทั้งนายโอภาส หรือนายจตุวุฒิ เกี่ยวข้องกับสารเคมีในโกดังที่อำเภอภาชีหรือไม่อย่างไร แต่การสืบค้นได้พบว่าชื่อ นามสกุล ของคนชื่อโอภาส และจตุวุฒิ ที่เกี่ยวข้องกับการเช่าโกดังที่ภาชี ตรงกับชื่อนามสกุลของสองคนนี้ ที่เคยถือหุ้นบริษัทวินโพรเสส จ.ระยอง


และหลักฐานที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนก็คือ ภายในรถบรรทุกที่จอดในโกดังลักลอบเก็บสารเคมี ที่อำเภอภาชีนั้น มีแฟ้มคนขับรถ คนหนึ่ง ในแฟ้มนั้นมีเอกสารจำนวนมาก ทั้งใบสั่งของและสำเนากรรมสิทธิ์รถยนต์ของบริษัทวินโพรเสส จ.ระยอง แต่ถึงที่สุดแล้ว บริษัทวินโพรเสส จะเกี่ยวข้องกับโกดังที่นี่ด้วยหรือไม่ การสืบสวนของ ตำรวจนับจากนี้ อาจจะทำให้ข้อสงสัยชัดเจนขึ้น