สังคม

นายกฯ เห็นชอบให้กรมโรงงานฯ ใช้งบกลาง 59 ล้าน ขนย้ายสารเคมีจากโรงงานแวกซ์ กาเบ็จฯ ไปกำจัด

โดย parichat_p

19 มี.ค. 2566

347 views

จากที่ทีมข่าว 3 มิติ ติดตามปัญหาผลกระทบจากสารเคมีต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งจากกรณีโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ จังหวัดราชบุรี และกรณีลักลอบเก็บสารเคมีในโกดังที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธา ล่าสุดทั้งสองกรณีมีความคืบหน้าในทิศทางที่ดีระดับหนึ่ง โดยกรณีโรงงานแว็กกาเบ็จ จ.ราชบุรีนั้น ล่าสุดนายกรัฐมนตรี เห็นชอบงบกลางกว่า 59 ล้านบาท ตามที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำเสนอเพื่อใช้แก้ปัญหาผลกระทบจากสารเคมีเร่งด่วน ซึ่งเป็นแผนงานแก้ปัญหาระยะแรก


ข่าว 3 มิติ ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาล ว่านายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ใช้งบกลางจำนวนกว่า 59 ล้านบาท ตามที่ขออนุมัติไป เพื่อนำของเสียตกค้างที่ปนเปื้อนสารเคมีจากโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ไปกำจัดให้ถูกวิธี


ปัญหาข้อเรียนเรื่องผลกระทบจากโรงงานแวกซ์ กาเบ็จฯ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับใบอนุญาต รีไซเคิล กากอุตสาหกรรม หรือประเภท 106 เกิดขึ้นมากว่า 20ปี ซึ่งประเด็นที่ชาวตำบลน้ำพุ อ.เมืองราชบุรี ร้องเรียนคือ น้ำในคลองน้ำพุ มีกลิ่นเหม็นฉุน มีการปนเปื้อนจากสารเคมี ต่อมาก็พบว่าน้ำบาดาลที่ใช้เพื่อการเกษตรและการดำรงชีวิต ก็ปนเปื้อนสารเคมีด้วย


ชาวตำบลน้ำพุ จึงรวมตัวฟ้องร้องเรื่องผลกระทบ โดยเป็นการฟ้องแบบกลุ่มหรือคลาส แอคชั่น ครั้งแรกของประเทศ และชนะคดี โดยศาลชั้นต้นสั่งให้โรงงานชดใช้ เยียวยา แต่คู่กรณีก็อุทธรณ์สู้คดี


ระหว่างที่คดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ปีที่แล้ว ได้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในโกดัง 3 หลังของโรงงาน ทำให้สารเคมีในถัง 200 ลิตร ปนเปื้อนมากขึ้น // และนอกจากนี้ ยังพบว่า ในขั้นตอนการดับเพลิงที่ลุกไหม้ ก็ทำให้น้ำที่ใช้ดับเพลิงชะล้างสารเคมีลงปนเปื้อนอีก


ไม่เพียงเท่านั้น ข่าว 3 มิติ ยังพบว่า หลังเกิดเพลิงไหม้ได้ 7 วัน มีรถแบ็คโฮเข้าไปปรับเกลี่ยและทุบถังขนาด 200 ลิตร จนสารเคมีในถังปนเปื้อน ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตุของชาวตำบลน้ำพุในขณะนั้นว่าเป็นการทำงานที่ไม่ถูกวิธี หรือเป็นการจงใจทุบถังสารเคมี เพื่อนำถังเปล่าไปขายหรือไม่ // แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด วิธีการดังกล่าวก็ทำให้การกำจัดยากขึ้นไปอีก เพราะทำให้น้ำเสียในถังสารเคมี ปนเปื้อนลงดินและทรายที่นำมาใช้ซึมซับน้ำที่ดับเพลิงด้วย


ต่อมากรมโรงงานอุตสาหกรรม มีคำสั่งให้โรงงานแวกซ์ กาเบ็จฯ ขนย้ายดินปนเปื้อนและถังสารเคมีในอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ออกไปกำจัดภาย 30 วัน ซึ่งขณะนั้น โรงงานประสานให้ 2 บริษัท เข้าไปขนย้าย คือบริษัทเบทเทอร์ เวิล์ด กรีน และบริษัทเอกอุทัย จำกัด / แต่ภายหลัง เหลือบริษัทเบทเทอร์ เวิล์ดกรีน เพียงแห่งเดียว และขนย้ายได้ราว 100 ตัน ก็ยุติ เนื่องจากโรงงานมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้กากของเสียยังตกค้างอยู่


กระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้ว กรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกคำสั่งทางปกครองให้โรงงานขนย้ายของเสียตกค้างทั้งหมดออกไปกำจัดโดยให้เวลาถึง 31 มกราคมปีนี้ หากไม่แล้วเสร็จ ภาครัฐจะดำเนินการเองฯ และฟ้องเรียกเงินค่าดำเนินการ จากบริษัทแวกซ์กาเบ็จ และปรากฎว่าเมื่อครบกำหนดแล้ว โรงงานดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ขณะที่ภาครัฐ เช่นกรมโรงงานอุตสาหกรรม /กรมทรัพยากรน้ำบางดาล ได้แยกกันของบกลางเพื่อแก้ปัญหา โดยส่วนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ขออนุมัติไป นายกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว จำนวน 59,853, 400บาทดังกล่าว


ขั้นตอนหลังจากนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม จะทำทีโออาร์ จัดซื้อจัดจ้างบริษัทมาดำเนินการ โดยแผนงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่เปิดเผยก่อนหน้านี้คือ ให้ขนย้ายดินปนเปื้อนสารเคมี จากจุดที่ถูกเพลิงไหม้ /ของเสียตกค้างที่อยู่บนดิน ในอาคารหลังต่างๆที่ยังก่อมลพิษ รวมถึงอาคารบ่อชะกากที่ชำรุด ซึ่งเสี่ยงที่น้ำเสียจะปนเปื้อนได้อีก ออกไปกำจัดก่อน โดยแผนการเคลื่อนย้ายกากของเสียตกค้างเหล่านี้ไปกำจัด เป็นแผนงานระยะที่ 1 ไม่รวมการฟื้นฟูน้ำใต้ดินและลำห้วยนำพุที่ปนเปื้อนสารเคมี


อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติ มีข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้ชาวตำบลน้ำพุที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องมาตลอดว่า นอกจากต้องการให้ย้ายสารเคมีในโกดังออกไปแล้ว ก็ต้องการเห็นความคืบหน้าการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมไม่ได้ เพราะแหล่งน้ำมีสารเคมีปนเปื้อน และแม้ว่าก่อนหน้านี้ศาลสั่งให้โรงงานเยียวยาชาวบ้าน โดยกรมบังคับคดี ได้ขายทอดตลาดที่ดิน 19 แปลงของโรงงงานนี้ และมีเงินสดที่โรงงานวางไว้ที่ศาลบางส่วน แต่เงินดังกล่าวก็ยังนำมาเยียวยามาไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่า คดียังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ ทำให้จนถึงขณะนี้การเยียวยาชาวบ้านโดยตรง ยังไม่เกิดขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News