สังคม

สธ.ตั้ง คกก. สอบปม รอง นพ.สสจ.โคราช 'จัดอบรมทิพย์' ทุจริตเบิกเงิน ใส่ชื่อคนตาย

โดย panwilai_c

16 มี.ค. 2566

122 views

ความคืบหน้าหลังจากที่ ปปท.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและป.ป.ช. ตรวจค้นบ้านพักรองนายแพทย์สสจ.จังหวัดนครราชสีมา หลังถูกร้องเรียนการทุจริตเบิกงบจัดสัมมนาทิพย์ 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยปลอมลายเซ็น และมีบางส่วนใส่ชื่อคนตายเข้าสัมมนา โดยไม่มีการสัมมนาจริง



ล่าสุดวันนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง รอง นายแพทย์สสจ.นครราชสีมา กรณีจัดอบรมเท็จแล้ว และอาจมีคำสั่ง ไม่ให้ปฏิบัติงานที่มายุ่งเกี่ยว โดยหากมีมูลจะเข้าสู่การสอบสวนทางวินัยต่อไป



นายแพทย์ภูวเดช สุระโคตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 เปิดเผยความคืบหน้า กรณีที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ (ปปท.) ตรวจสอบคดีทุจริตโครงการจัดอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบลและอำเภอ 32 อำเภอในจังหวัดนครราชสีมา แต่ไม่ได้มีการจัดอบรมจริง



โดยมีการเข้าตรวจบ้านพักของ นายสันติ ทวยมีฤทธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ว่า เรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการทางคดีของหน่วยงานด้านการปราบปรามทุจริตแล้ว ดังนั้น ในทางคดีจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข ผู้ต้องสงสัยต้องชี้แจงพิสูจน์ตนเองภายใต้กระบวนการยุติธรรม



ส่วนการดำเนินการทางวินัยข้าราชการ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยราชการต้นสังกัดนั้น เบื้องต้น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้รายงานข้อมูลมายังปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทางวินัยก่อนจึงจะสรุปได้ว่ามีความผิดทางวินัยราชการหรือไม่



โดยเริ่มจากการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลตามข้อกล่าวหา จะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยต่อไป ซึ่งการพิจารณาส่วนหนึ่งจะใช้ข้อมูลจากการสืบสวนของตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปท.ด้วย เมื่อได้ผลสรุปแล้ว คณะกรรมการจะรายงานต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยโทษทางวินัยราชการจะมี 2 ระดับ คือ โทษวินัยไม่ร้ายแรง คือ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน และโทษวินัยร้ายแรง คือ การปลดออกและไล่ออก



สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการจัดโครงการอบรมในช่วงปีงบประมาณ 2562 ขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และระหว่างที่ตรวจสอบอาจมีคำสั่งไม่ให้ปฏิบัติงานที่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน รวมถึงอาจให้มีการตรวจสอบโครงการจัดอบรมในพื้นที่ย้อนหลัง ส่วนโครงการปัจจุบันให้ดำเนินการอย่างรัดกุมไม่ให้ผิดหรือละเมิดระเบียบ ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการป้องกันและป้องปรามการทุจริต ตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบ หากมีความผิด มีโทษทางราชการ จะเสนอเข้าสู่กระบวนการของ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ในการตัดสินเอาผิดทางวินัยต่อไป

คุณอาจสนใจ