สังคม

เสื่อมอีกแล้ว! ข้าราชการเทศบาลระดับสูง แอบเขียนเช็ค นำฎีกาเบิกเงินเวียนซ้ำ ทุจริตเงินหลวงไปกว่า 9 ล้านบาท

โดย paranee_s

10 ธ.ค. 2565

2.6K views

วันนี้ (10 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เปิดเผยถึงเรื่องราวฉาวโฉ่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเทศบาลตำบลลำภูรา ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ภายหลังจากช่วงเดือน กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ข้าราชการระดับสูงรายหนึ่งของเทศบาลตำบลลำภูรา ได้ออกมารับสารภาพกับ นางสาวอนิสา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำภูราคนปัจจุบัน หลังจากที่อดีตนายเทศบาลตำบลลำภูรา ได้เสียชีวิตและพ้นจากตำแหน่งลงไป


ระบุว่าตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ. 2565 ได้โกงทุจริตนำเงินจากกองคลังเทศบาลฯ ไปจำนวนประมาณ 9 ล้านบาท แต่ได้มีการส่งคืนกลับไปบ้างแล้วในบางส่วนช่วงปี พ.ศ. 2561 ถึง พ.ศ. 2562 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบยอดว่าคืนกลับเข้าไปแล้วจำนวนเท่าไร


แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเบื้องต้น เงินที่ขาดบัญชีอยู่ที่ประมาณ 4 – 5 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่สรุป และยังมีเงินจำนวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถระบุที่มาที่ไปได้ถึงการเข้าออกของจำนวนเงินดังกล่าว


ซึ่งพฤติการณ์คือเพิ่มจำนวนเงินหน้าเช็ค เขียนเช็คโดยไม่ขีดฆ่า หรือผู้ถือ แอคเคาท์ เปย์ยี่ โอลี่ (Account Payee Only) ในเช็คเพื่อที่จะนำเงินเข้าบัญชีผู้ทุจริตโดยตรง และมีการนำฎีกาเบิกเงินกลับมาเวียนซ้ำ ภาพรวมคือไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบราชการ โดยการนำเงินออกไปแต่ละครั้งจะนำออกไปครั้งละประมาณ 2-5 แสนบาท


ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลฯ อยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการและตรวจสอบกรณีดังกล่าว และทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ประจำ จ.ตรัง (สตง.) ก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่มีข้อสรุปและเปิดเผยรายละเอียด


ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้เดินทางเข้าพบกับ นายอนันต์ ท้องถิ่น จ.ตรัง และ น.ส.นาถวดี  ผอ.กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบ สำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น จ.ตรัง เพื่อสอบถามและขอข้อมูลในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น


นายอนันต์ ท้องถิ่น จ.ตรัง ให้ข้อมูลว่า ตามหนังสือจากเทศบาลที่ ตง. 53101/394 ลงวันที่ 9 ก.ย. 65 รายงานเข้ามาว่า ได้ตรวจสอบหลักฐานฎีกาเบิกเงิน และหลักฐานการจ่ายเงิน พบว่ามีเหตุน่าสงสัยว่าจะมีปัญหาทางการเงิน และการทุจริตเกิดขึ้น


และมีรายงานมาเพื่อที่จะขอตัว น.ส.นาถวดี ผอ.กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบ สำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น จ.ตรัง เพื่อแต่งตั้งเป็นหนึ่งในกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถของเทศบาลฯในเรื่องนี้มีไม่เพียงพอ โดยขณะนี้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเทศบาลฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีเงินขาดบัญชีและสูญหายประมาณ 4-5 ล้านบาท ซึ่งยอดจริง ๆ ยั งไม่มีข้อยุติ


นายอนันต์ ระบุเพิ่มเติมว่า โดยตอนนี้เจ้าตัว หรือผู้ที่กระทำความผิดได้ขาดราชการและขาดการติดต่อกันไปหลายวัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อไล่ออกจากราชการ เนื่องจากผิดวินัยร้ายแรงจากการขาดราชการ หลังจากนี้ทางท้องถิ่นจังหวัด หากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะมีการดำเนินการทางละเมิด ทางอาญา และทางวินัย ทั้ง 3 ฐานความผิด กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบเกี่ยวกับเงินของทางราชการทั้งหมด ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอยู่ด้วยเช่นกัน


เบื้องต้นกรณีดังกล่าวคาดว่ามีการทุจริตตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ. 2565 หรือกว่า 5 ปีงบประมาณ ซึ่งเป็นฎีกาที่สลับซับซ้อนพอสมควรในการตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลา หลังจากทราบเรื่องก็ได้รายงานไปทาง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และกระทรวงมหาดไทย รับทราบเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ด้าน น.ส.นาถวดี ให้ข้อมูลถึงพฤติการณ์การกระทำผิดของ ผอ.รายดังกล่าวว่า ได้มีการเขียนเช็ค ไม่ขีดฆ่า หรือผู้ถือ แอคเคาท์ เปย์ยี่ โอลี่ (Account Payee Only) ในเช็ค มีการเขียนเว้นระยะห่างในเช็ค เพื่อสามารถให้เติมตัวเลขข้างหน้าได้ และยังสามารถไปเติมตัวเลขหลังจากผู้มีอำนาจเซ็นเสร็จ ก็จะมาเติมตัวเลขเอาไปเบิกจ่ายในนามของตัวเอง


อีกทั้งยังนำเอาฎีกาเบิกเงินต่าง ๆ กลับมาเวียนเพื่อเบิกอีกครั้งหนึ่ง โดยเบิกในจำนวนเงินที่น้อย ที่สามารถสั่งจ่ายได้ในนามของ ผอ.กองคลัง และเจ้าหน้าที่การเงินเองได้ และนำฎีกาตัวนี้มาเติมจำนวนเงินในภายหลังอีก กลายเป็นว่านำฎีกามาเวียนเบิกจ่ายอีกครั้งหนึ่ง


ซึ่งการกระทำดังกล่าวยากต่อการตรวจสอบ เพราะของเทศบาลลำภูรา การควบคุมภายในไม่ดีด้วย เพราะคนที่ทุจริตเป็นคนทำบัญชี และทำบัญชีรวบรัดอยู่ในคน ๆ เดียวกัน ซึ่งยากแก่การตรวจสอบ เพราะไม่ได้มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย


อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่องทางนายกฯ คนปัจจุบัน ได้มีการมอบอำนาจให้ทางปลัดเทศบาลฯ เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยยอด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้มีการตรวจสอบยอดเงินที่สูญหายอย่างแน่ชัดก่อน แล้วค่อยดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญา


ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามขอข้อมูลและสัมภาษณ์ น.ส.อนิสา นายกเทศมนตรี แต่กลับได้รับการปฏิเสธในการให้ข้อมูลหรือสัมภาษณ์ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News