แม่เด็กชายวัย 8 เดือนเปิดใจ ยอมรับโยนศพลูกลงน้ำ ยันไม่มีใครรู้เห็น ขอโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่

ความเคลื่อนไหวกรณีเด็กชาย 8 เดือนหายตัวปริศนา ก่อนที่เเม่ของเด็กจะออกมารับสารภาพ อ้างว่าพลาดทำเด็กตกศีรษะกระเเทกพื้นเสียชีวิต หลังจากศาลอนุญาตให้ประกันตัว ล่าสุด เธอออกมาเปิดใจผ่านสื่อมวลชน ยอมรับว่าเป็นคนโยนร่างของลูกชายลงคลอง ยืนยันว่าทำคนเดียวไม่มีใครรู้เห็น ขณะหลายฝ่ายที่ติดตามคดีนี้ไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด โดยเฉพาะอัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน วิจารณ์การทำงานของตำรวจ ที่เร่งรัดตั้งข้อหาแม่เด็กและปิดคดีเร็วเกินไป ขอให้รอความจริงปรากฏก่อน



ช่วงเย็นที่ผ่านมา แม่ของเด็กชายวัย 8 เดือนและผู้เป็นพ่อ ซึ่งมีศักดิ์เป็นตา เปิดใจเป็นครั้งสุดท้าย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอโทษทุกคนและทุกฝ่ายที่ทำให้วุ่นวาย ส่วนเรื่องคดีขอให้ไปถามตำรวจ แต่ยืนยันว่า ตนเองโยนร่างลูกชายที่เสียชีวิตแล้วลงไปในน้ำ บริเวณตำแหน่งที่ไปทำพิธีโยนผ้า และเห็นว่าร่างจมลงน้ำ



เธอบอกว่าในวันเกิดเหตุ ลูกชายสวมเสื้อลายขวางสีขาวดำ และแพมเพิส โมฟิก ไซซ์เอ็ม สาเหตุที่นำร่างลูกชายไปโยนลงน้ำโดยไม่บอกใคร เพราะกลัวจะถูกต่อว่า ไม่ใช่กลัวถูกทำร้าย ยืนยันว่าพูดความจริง ไม่ได้โกหก เพราะตนเองได้รับบทเรียนจากการโกหกมาเยอะแล้ว ส่วนที่ก่อนหน้านี้ไม่สารภาพกับตำรวจ เพราะเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชาย ใช้คำถามแบบผู้ใหญ่ จึงไม่กล้าบอก ยืนยันว่าตัดสินทำคนเดียว ไม่มีใครรู้เห็น และยังไม่ได้บอกพ่อของเด็ก



แม่เด็กยังอยากขอโทษลูกที่ทำอะไรโดยไม่คิดให้ดีก่อน จากนี้จะพบร่างหรือไม่ ไม่ได้คาดหวัง แต่อยากได้อะไรที่เกี่ยวกับลูกเพื่อจะได้ทำบุญให้ลูก ส่วนรายละเอียดที่พลาดทำลูกตกรวมถึงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด ขอให้ไปถามจากตำรวจ



นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน ให้ความเห็นกรณีนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าเด็กยังมีชีวิต โดยอาจมีบุคคลอื่นมารับตัวไป และให้ค่าตอบแทนกับแม่เด็ก เพราะสิ่งที่แม่เด็กพูดทำให้น่าเชื่อว่าเด็กยังมีชีวิตมากกว่าจะเสียชีวิตแล้ว



ส่วนคำรับสารภาพของแม่เด็กรับฟังไม่ได้ เพราะหากตำรวจมีพยานหลักฐานอื่น ก็คงจะมีการนำมาแสดงแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจรู้ได้อย่างไรว่าแม่เด็กกระทำการโดยประมาท และการที่เด็กสูญหาย มีหลักฐานอื่นสนับสนุนหรือไม่



ทั้งนี้เชื่อว่าแม่เด็กเป็นคนฉลาด ที่ต้องการจบคดีทั้งหมด โดยมีความรู้ว่า หากหาตัวเด็ก หรือ ศพไม่เจอ ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ และการที่ตำรวจตั้งข้อหากับแม่ของเด็กเป็นการด่วนสรุปเกินไปและไม่รอบคอบ เพราะเด็กวัย 8 เดือน ถือเป็นพยานหลักฐานสำคัญในการตั้งข้อกล่าวหา จึงเชื่อว่า ตำรวจต้องการปิดคดีโดยเร็วภายใต้ความกดดัน แต่หากวันใดพบว่าเด็กวัย 8 เดือนยังมีชีวิต ตำรวจจะต้องถูกดำเนินคดี กรณีตั้งข้อหาเกินกว่าความเป็นจริง



ส่วนการค้นหาร่างของเด็ก ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตำรวจน้ำ 8 นาย นำเรือท้องแบน1 ลำ พร้อมอุปกรณ์ใต้ดำ เริ่มค้นหาริมตลิ่งเพื่อหาหลักฐาน ทั้งเสื้อผ้าและร่างเด็ก แต่ก็ยังไม่พบพยานหลักฐานใดเลยนอกจากเศษปฏิกูล ช่วงหนึ่งของการค้นหา เจ้าหน้าที่ไปพบกระสอบทรายต้องสงสัยภายในมีวัสดุบางอย่างทรงกลม แข็งๆ แต่พอนำขึ้นมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นลูกตาล ที่เน่าเเล้ว



พันตำรวจเอก สุธี วรรณสูตร ผู้กำกับการ สภ.บางหลวง เปิดเผยว่า การค้นหาจะยังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจน้ำ และกู้ภัย รวมถึงจะนำเอาหมูน้ำหนักเท่ากับร่างน้องวัย 8 เดือน ประมาณ 9 กิโลกรัม มาจำลองโยนลงแม่น้ำ ทำให้เหมือนสถานการณ์จริงมากที่สุด เพื่อดูทิศทางการลอยว่าจะไปทางไหน เพื่อกำหนดทิศทางการค้นหา



ส่วนจะจำลองในเวลาใด ต้องขอดูช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงก่อน ซึ่งต้องพิจารณาให้ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกับวันที่เกิดเหตุคือประมาณตี 5 ตามคำกล่าวอ้างของแม่เด็ก ยอมรับว่า สภาพแวดล้อมในคลอง ทั้งการลอกคลอง เก็บผักตบชวา อาจจะมีผลต่อการจำลองบ้างเล็กน้อย ส่วนจะเจอร่างหรือไม่ จะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป