สังคม

'ทีมกู้ภัยตุรกี' เริ่มรื้อถอนอาคาร หลังใช้เรดาร์จับความร้อน ไม่พบสัญญาณชีพ คาดไม่มีผู้รอดชีวิตแล้ว

โดย parichat_p

14 ก.พ. 2566

34 views

นายเลอพงศ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากชาวตุรกีที่ได้มาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งมีภารกิจร่วมกับทีมกู้ภัยตุรกีและนานาชาติ ก่อนจะยุติภารกิจในวันพรุ่งนี้ เพราะในการปฏิบัติงานของตุรกีได้ผ่านช่วงค้นหาผู้รอดชีวิตแล้ว แต่ยังมีการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งทีมไทยได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมในวันนี้ ส่วนการทำงานของ UCC ที่เป็นศูนย์ประสานงานร่วมของสหประชาชาติ ได้ยุติภารกิจในเมืองนี้แล้ว ก่อนที่ทีม USAR Thailand จะเตรียมตัวเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 18 กุมภาพันธ์


สำหรับภารกิจทีม USAR Thailand วันนี้ได้เข้าตรวจสอบจุดที่มีรายงานว่าจะพบผู้รอดชีวิต แต่ไม่มีปาฎิหารย์แล้ว ทางการตุรกีเริ่มทำการรื้อถอนอาคารเพื่อปรับพื้นที่เข้าสู่การฟื้นฟูแล้ว


ทีม USAR Thailand ได้รับประสานภารกิจจากทีมกู้ภัยตุรกีให้เข้าตรวจสอบค้นหาเด็ก 7 ขวบที่อาจรอดชีวิตในอาคารหลังหนึ่งในเมือง อันตักเยีย จึงเตรียมชุดค้นหา และสุนัขกู้ภัย เชียร์ร่า-ซาฮาร่า ออกเดินทางไปพื้นที่เกิดเหตุ


แต่เมื่อไปถึงพบว่าทีมกู้ภัยตุรกี ได้เริ่มทำการรื้อถอนอาคารแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านั้น ทีมกู้ภัยจีน ได้ใช้เครื่องสแกนเรดาร์ตรวจจับความร้อน ไม่พบสัญญาณชีพ จึงคาดว่าไม่มีผู้รอดชีวิตแล้ว จึงต้องทำการรื้อถอนอาคารเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิต เนื่องจากญาติต่างรอคอย ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวานนี้ยังพบชายวัย 71 ปีรอดชีวิตจากอาคารแห่งนี้ หลังเหตุการณ์ผ่านมา 1 สัปดาห์


นอกจากนี้ วิศวกร ทีม USAR Thailand ยังได้ตรวจสอบความเสียหายของอาคาร ซึ่งพบว่าฐานรากเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว แต่อาคารหลังนี้มีอาคารอีกหลังมารับไว้ แต่หากพบผู้รอดชีวิตจริงจะต้องประเมินความเสี่ยง เพื่อช่วยชีวิตคนก็ต้อง แต่หากว่าไม่มีชีวิตแล้ว ก็จำเป็นต้องรื้อถอนแต่ก็ต้องระวังไม่ให้กระทบร่างผู้สูญเสียที่มีความสำคัญต่อความรู้สึกของญาติเช่นกัน


สำหรับพื้นที่ความเสียหายจุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เสียหายอย่างหนัก จะเห็นว่าทางการตุรกีได้ระดมเครื่องจักรและวิศวกร เขาทำการรื้อถอนอาคาร ที่ส่วนใหญ่ถล่มไปแล้ว เริ่มให้ย่อยสลายเป็นชิ้นเล็ก ก่อนจะเคลียร์พื้นที่ ซึ่งมีรถบรรทุกเตรียมเคลื่อนย้ายซากความเสียหาย ท่ามกลางผู้ประสบภัยที่ยังมาเฝ้ารอว่าอาจจะมีญาติที่สูญหายติดอยู่ใต้อาคาร ซึ่งมีการพักอยู่ริมถนน เพื่อเฝ้าดูบ้านของตัวเองแม้จะพังไปแล้วก็ตาม


ตลอดสองข้างทางของเมืองนี้จึงยังเต็มไปด้วยความโกลาหลในการเก็บซากความเสียหายให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่รัฐบาล และอาสาสมัคร องค์กรการกุศล ก็นำสิ่งของบริจาคมาช่วยผู้ประสบภัย เช่นเสื้อผ้าที่จะนำมาตากแดดกองไว้ริมถนน เพื่อให้ผู้ประสบภัยมาเลือกได้ตามที่ต้องการ อย่างครอบครัวนี้ก็มาเลือกเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงและเด็ก โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวที่จำเป็นมาก


นอกจากนี้ยังมีการเปิดโรงทานทำอาหารให้ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ซึ่งพบว่าสำนักงานกู้ภัยของเมืองนี้ก็ได้รับความเสียหาย รถดับเพลิงถูกอาคารหล่นทับ จึงต้องกางเต้นท์ใช้พื้นที่เป็นศูนย์กลางในการกู้ภัย


แม้บ้านทุกหลังอาคารทุกแห่งจะเสียหายทั้งหมด แต่เราเห็นผู้ประสบภัยบางครอบครัวต้องอยู่ในบ้านที่มีซากความเสียหาย เราพบครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ที่บอกว่าบ้านพังไปแล้ว จึงต้องอยู่ที่ร้านอาหารไปก่อน พวกเขาลี้ภัยมาจากซีเรีย 8 ปีแล้ว ครอบครัวที่ซีเรียเสียชีวิตหมดแล้วจากสงคราม ส่วนพวกเขา 8 คน ยังรอดชีวิต แต่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดอย่างไรหลังประสบภัยแผ่นดินไหว


ส่วนชาวตุรกีที่ประสบภัย บางส่วนกางเต้นท์นอนในสวนสาธารณะ พวกเขาบอกว่า บ้านพังทั้งหลัง และคนในครอบครัว 5 คน ยังติดอยู่ใต้ซากแผ่นดินไหว จึงรอให้เจ้าหน้าที่รื้อถอนอาคาร ก็หวังจะได้นำร่างของทุกคนออกมา และพวกเขาคงไม่ย้ายไปไหน จะรอให้รัฐบาลนำตู้คอนเทนเนอร์ไปสร้างบ้านชั่วคราวในที่เดิมของตัวเอง เพราะเหตุแผ่นดินไหวได้สอนให้พวกเขารู้ว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าลงโทษที่ไม่เคยเห็นใจคนยากจน ทำให้เห็นสภาพที่ทุกคนกลับมาไม่มีบ้านเป็นคนเท่ากัน


ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จึงไร้บ้าน และต้องไปพักในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีการมอบเต็นท์ให้พักเป็นครอบครัว ภายในมีห้องพัก 2 ห้อง ที่พักและเครื่องกันหนาว ในลักษณะเดียวกับเต้นท์ผู้ลี้ภัย ทุกคนบอกว่า จะต้องมีกำลังใจอยู่ให้ได้ และรอวันฟื้นฟูบ้านให้กลับมาใหม่ พร้อมทั้งขอบคุณคนไทยที่ส่งกำลังใจมาให้ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News