เปิดโปงขบวนการฟอกไม้เถื่อน สวมสิทธิ์ตัดก่อนเข้าโรงเลื่อยแปรรูป พบมีจนท.รัฐเอี่ยว

ข่าว 3 มิติ ได้รับข้อมูลร้องเรียนว่าที่อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร มีเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มหนึ่งรับเป็นนายหน้าให้กับนายทุน ติดต่อซื้อไม้ยางนาจากที่ดินสาธารณะ เช่น ป่าชุมชน หรือไม้ริมลำห้วย โดยใช้วิธีหลอกชาวบ้านว่าเป็นไม้ที่สามารถตัดขายได้อย่างถูกต้อง



จากนั้นขบวนการนี้จะนำไม้ไปสวมสิทธิ์กับไม้ที่ขออนุญาตตัดอย่างถูกต้องในที่ดินกรรมสิทธิ์ นั่นคือโฉนดหนึ่งใบจะถูกนำไปสวมกับไม้หลายต้น เพื่อส่งเข้าโรงเลื่อยและแปรรูปกลายเป็นไม้ถูกต้องทำให้ยากในการตรวจสอบที่มา หรือที่เรียกกันว่า "การฟอกไม้"



ภาพหลักฐานที่ระบุว่า เป็นการลักลอบตัดไม้ยางนาจากที่ดินสาธารณะ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร เป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมข่าว 3 มิติ เริ่มตรวจสอบเรื่องนี้



ในข้อมูลระบุว่าไม้ยางนาขนาดใหญ่หลายสิบต้น ถูกตัดจากป่าริมห้วยสะแบก ด้านหลังวัดป่าธาตุสมบูรณ์ ในตำบลบุ่งค้า อำเภอเลิงนกทา



ข่าว 3 มิติ พยายามติดต่อผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เจ้าของพื้นที่ แต่ผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าไม่มีการลักลอบตัดไม้ยางนาที่นี่ มีแต่ไม้ที่ตัดจากที่ดินกรรมสิทธิ์เพียงต้นเดียวก็คือตอไม้ที่เห็นอยู่นี้ ซึ่งขออนุญาตถูกต้อง



ทีมข่าวพยายามตรวจสอบจากภาพมุมสูงก็ยังไม่เห็นร่องรอยการตัดไม้ แต่แหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลยืนยันว่าจุดตัดไม้คือป่าบริเวณนี้ เราจึงตัดสินใจเดินเข้าไปสำรวจในป่า



เมื่อเดินผ่านป่าชั้นนอกเข้าไปถึงลำห้วย ภาพที่เห็นก็คือต้นยางนาขนาดใหญ่ถูกตัดทิ้งไว้ในลักษณะเลื่อยลำต้นไปแล้ว บางจุดมีร่องรอยการเลื่อยที่ดูเหมือนจะผ่านมาแล้วระยะหนึ่ง



ทีมข่าวถ่ายภาพร่องรอยการตัดไม้ที่พบไว้เป็นหลักฐาน และพยายามติดต่อหาผู้ใหญ่บ้านอีกครั้ง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านยอมให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยยันว่าไม่รู้ว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ ภาพที่ทีมข่าวพบ น่าจะเป็นร่องรอยเก่าที่เกิดขึ้นนานแล้ว



ข้อมูลนี้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับชาวบ้าน ที่ระบุว่ามีนายทุนเข้ามาตัดไม้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยใช้รถบรรทุกเข้ามาขนไม้ถึงแนวป่า ตรงกับภาพที่ร้องเรียนกับข่าว 3 มิติ



ข้อมูลเชิงลึกจากคนพื้นที่ ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับป่าไม้บางกลุ่ม สวมบทเป็นนายหน้าเข้าไปติดต่อชื้อไม้ให้กับนายทุน ในพื้นที่ยโสธรและจังหวัดใกล้เคียงมีจุดพักไม้ 5 จุด ในอำเภอกุดชุม 1 จุด ตรงข้ามปั้มน้ำมันถนนเส้นยโสธร-อุบลราชธานี 2 จุด และในอำเภอคำเขื่อนแก้ว 2 จุด



เส้นทางของไม้ยางนาจะถูกลำเลียงไปยังโรงเลื่อยในภาคเหนือและจังหวัดนครราชสีมา โดยอ้างว่าเป็นไม้ที่ตัดจากที่ดินกรรมสิทธิ์ เพื่อเป็นใบผ่านทางเมื่อเจอด่านตรวจ



เมื่อไม้ยางนาเถื่อนผ่านการแปรรูปจะถูกตีตราเป็นไม้ถูกกฎหมาย หรือหากต้องตรวจสอบก็ทำได้ยากมาก เพราะลักษณะ หรือจุดตำหนิของไม้ไม่เหมือนเดิมแล้ว

สิ่งที่ยืนยันว่าขบวนการสวมสิทธิ์ฟอกไม้ยางนาในภาคอีสานมีอยู่จริง นั่นคือการลงพื้นที่ของชุดเฉพาะกิจพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว และพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งของกรมป่าไม้และกรมการปกครองเข้าไปเกี่ยวข้องรับเป็นนายหน้าชื้อไม้ให้กับนายทุนจริง จนนำไปสู่การตรวจยึดไม้ยางนาอายุมากกว่า 100 ปี รวม 119 ต้น และย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ และตั้งกรรมการสอบสวน



การขยายผลยังเชื่อมโยงไปถึงโรงเลื่อยไม้ในจังหวัดยโสธร พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง แต่ก็ไม่พบว่าเป็นไม้ที่ถูกตัดมาจากที่เดียวกัน การสืบสวนในทางลับของชุดพยัคฆ์ไพร พบว่าเฉพาะในเขตจังหวัดอำนาจเจริญมีนายทุนรับซื้อไม้มากถึง 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มไม่รู้จักกัน แต่มีรูปแบบเหมือนกันคือจ้างชุดตัดและขนย้ายคนละชุดเพื่อตัดตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่



เส้นทางของขบวนการสวมสิทธิ์ฟอกไม้ยางนา เริ่มต้นจากให้นายหน้าซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปติดต่อขอซื้อไม้จากชาวบ้านหรือผู้นำชุมชน โดยเกลี้ยกล่อมว่าขายได้ไม่ผิดกฎหมาย



จากนั้นตัดไม้ขนย้ายออกนอกพื้นที่โดยจ่ายเงินเคลียร์เส้นทางกับเจ้าหน้าที่ เมื่อออกนอกเขตก็จะแสดงเอกสารสิทธิ์เป็นใบผ่านทางอ้างว่าตัดมาจากที่ดินอย่างถูกต้อง ซึ่งเอกสารสิทธิ์จะใช้วนเพื่อขนไม้หลายครั้ง



เมื่อไม้ผ่านเข้าโรงเลื่อยแปรรูปก็จะตีตราเป็นไม้ถูกกฎหมาย ผ่านกระบวนการฟอกไม้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าตรวจสอบได้ยากมาก



ล่าสุดคดีฟอกไม้ยางนากรมป่าไม้ส่งให้ดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เพราะพบว่า เบื้องหลังมีกลุ่มอิทธิพลเกี่ยวข้องหลายกลุ่ม เพราะไม้ยางนากำลังเป็นที่ต้องการของนายทุนต่างชาติ หลังไม้พยูงและไม้ชิงชัน เหลือปริมาณน้อยลงจนหาได้ยากแล้ว