สังคม

แกะรอยโจรกรรมไม้พะยูงของกลาง พบหลักฐานกลุ่มจนท.รัฐเอี่ยว

โดย panwilai_c

2 ก.ย. 2566

92 views

กรณีไม้พะยูงของกลางมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา วันนี้เริ่มมีความชัดเจนแล้ว ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 8 คน เข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ด้วย



ตำรวจพบหลักฐานว่ามีการติดต่อกัน รวมทั้งเส้นทางการโอนเงินเชื่อมโยงกับนายทุนรับซื้อไม้ชาวจีนรายหนึ่ง ที่ชื่อแซ่จาง คดีนี้ถูกจับตาจากสังคมเพราะไม้ของกลางหายไป ทั้งที่เก็บรักษาไว้ในหน่วยงานของรัฐ และผู้ถูกกล่าวหาส่วนหนึ่งก็ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม คำให้การและหลักฐานต่างๆ จึงถูกส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินการตรวจสอบหาความจริงต่อ



ไม้พะยูงขนาดใหญ่ 7 ท่อน ถูกเจ้าหน้าที่ยึดมาได้จากสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม้ทั้งหมดนี้ถูกตัดทิ้งไว้แต่ไม่ได้ขนย้ายออกไป รวมทั้งไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงขนไม้พะยูงทั้งหมดมาเก็บไว้หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อมาวันที่ 5 สิงหาคม มีบุคคลกลุ่มหนึ่งเข้ามาขนย้ายไม้พะยูงออกไป โดยอ้างว่าดำเนินการทางคดีเสร็จแล้ว



วันที่ 10 สิงหาคม หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความว่าไม้พะยูงของกลางสูญหายไป ก่อนที่ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์จะแจ้งความอีกครั้งวันที่ 16 สิงหาคม ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ลักลอบตัดและนำไม้พะยูงไป เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมธนารักษ์ในที่ราชพัสดุ



คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เพราะไม้ขนาดใหญ่ 7 ท่อน หายสาบสูญไปทั้งที่อยู่ในหน่วยงานราชการ มีชุดสืบสวนหลายหน่วยลงพื้นที่ทั้งตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และตำรวจภูธรภาค 4 ขณะที่ผู้ว่าราชการสั่งตั้งชุดเฉพาะกิจค้นหาความจริงเรื่องนี้



การสืบสวนเริ่มจากหลักฐานสำคัญ คือกล้องวงจรปิดในเทศบาลตำบลอิตื้อ แต่ทางเทศบาลแจ้งว่ากล้องเสีย ตำรวจจึงเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมด ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและชาวบ้านในบริเวณนั้น แต่ก็ยังไม่ไม่มีคำตอบว่าไม้ของกลางหายไปไหน



ข่าว 3 มิติ ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นที่ไม้ถูกตัด คือสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ ตอไม้พะยูงต้นนี้คือหลักฐานที่เหลือทิ้งไว้ และเป็นจุดแรกที่มีข้อสังเกต คือการตัดไม้ต้องเป็นไปอย่างเร่งรีบ เพราะไม่เสียเวลารื้อเครื่องป้องกันที่ติดตั้งไว้แต่เลือกตัดให้สูงกว่า ทั้งที่บริเวณตอไม้ที่ยาวกว่า 2 เมตรครึ่ง มีแก่นไม้ขยาดใหญ่กว่าจุดอื่น



จุดที่สองคือทางเข้าออกมีสองทาง ทางแรกต้องผ่านบ้านพักเจ้าหน้าที่ ทางที่สองมีเนินดินขวาง ขณะเกิดเหตุแม้ยังไม่มีรั้วลวดหนามแต่ก็มีไม้กั้นถนนอยู่ ซึ่งรถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ จึงเกิดคำถามว่าจะขนไม้ขนาดใหญ่ไปอย่างไร หรือแค่ต้องการตัดทิ้งไว้



ตำรวจสรุปการสืบสวน โดยแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลและเจ้าพนักงานของรัฐ ทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต โดยมีบุคคลซึ่งไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐให้การสนับสนุนรวม 8 คน คือ เจ้าพนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ 2 คน เจ้าหน้าที่สังกัดกรมป่าไม้ 3 คน กำนันและผู้ใหญ่บ้าน 3 คน โดยบระบุว่า มีมีพฤติกรรมตรวจไม้ เก็บรักษาไม้ และเจรจาซื้อขายรับเงินค่าไม้พะยูง



คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงอยู่ในอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งขณะนี้บันทึกคำให้การ และเอกสารทั้งหมดถูกส่งถึงคณะกรรมการพิจารณาแล้ว



ข้อมูลที่ได้จาก ป.ป.ช. ยังมีข้อสังเกตหลายประเด็น เช่น

-ข้อมูลจาก 2 หน่วยงาน คือสถานีเพาะชำและเทศบาลไม่ตรงกัน มีไม้ส่วนหนึ่งที่คนตัดนำไปด้วย ยังไม่ชัดเจนว่ามีความยาว 2 เมตร หรือ 4 เมตร

-ทำไมต้องขนย้ายไม้มาเก็บไว้ที่เทศบาลตำบลอิตื้อ

-ไม่มีการลงบัญชีไม้ที่ชักลากมาเก็บไว้



ข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ยืนยันว่าทำตามหน้าที่ที่รับมอบหมายให้เฝ้าไม้ แต่ช่วงเย็นวันเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้มากับบุคคลกลุ่มหนึ่งโดยอ้างว่าไม้ของกลางทั้งหมดดำเนินการเสร็จแล้ว จะขนย้ายไปที่อื่น



ข้อมูลอีกมุมที่ข่าว 3 มิติ ได้มา คดีนี้เป็นพฤติกรรมของขบวนการฟอกไม้ ที่มีเจ้าหน้าที่เป็นคนชี้เป้า ตัดไม้ทิ้งไว้เพื่อให้ถูกยึด เมื่อเสร็จสิ้นคดีก็ติดต่อซื้อไม้อีกครั้ง จากไม้ที่ถูกลักลอบตัดก็จะถูกฟอกเป็นไม้ถูกกฎหมาย



วันพรุ่งนี้ข่าว 3 มิติ จะเปิดเบื้องหลังขบวนการฟอกไม้พะยูง ที่มีเจ้าหน้าที่เป็นตัวการสำคัญในขบวนการ ว่ามีวิธีการอย่างไรเพื่อแลกกับผลประโยชน์มูลค่ามหาศาล

คุณอาจสนใจ