สังคม
เปิดเส้นทางรถเสี่ยเบนท์ลีย์ เลี่ยงภาษีเกือบ 11 ล้าน
โดย panwilai_c
14 ม.ค. 2566
151 views
พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างสอบปากคำทีมแพทย์ที่ตรวจเลือดของสุทัศน์ สิวาภิรมย์ ผู้ขับขี่รถยี่ห้อเบนท์ลีย์ ที่ขับชนบนทางด่วน เพื่อหาข้อเท็จจริงประกอบสำนวน กรณีที่แพทย์พบว่ามีสารเสพติดบางชนิดในตัวอย่างเลือดนายสุทัศน์ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า เมื่อได้หลักฐานมากพอ จะต้องเรียกนายสุทัศน์มารับทราบข้อกล่าวหา ขณะเดียวกัน ตอนนี้มีประเด็นเรื่องรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์คันนี้ เคยถูกดำเนินคดีฐานสำแดงราคาเท็จเพื่อหลบเลี่ยงภาษีเมื่อปี 2554 แต่มีข้อขัดข้องที่ทำให้การดำเนินคดีไม่ถึงที่สุด
รถยนต์ยี่ห้องเบนท์ลีย์ รุ่นคอนติเนนทัลจีที สปีด คันนี้ ถูกตำรวจตรวจพบ บนรถสไลด์ ขณะมุ่งหน้าไปจังหวัดสงขลา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2554 จากนั้นถูกลำเลียงไปเก็บเพื่อดำเนินคดี ที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามอาญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ.
เหตุผลที่ต้องดำเนินคดีเพราะขณะนั้นเจ้าของรถได้แสดงใบแจ้งสินค้านำ หรือใบ อินวอยซ์ของรถคันนี้ให้ตำรวจตรวจสอบ และตำรวจพบข้อสงสัยว่าใบอินวอยซ์นี้อาจปลอมแปลงขึ้นโดยแจ้งราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อหวังว่าจะไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้ารถแบบเต็มจำนวน
ตำรวจ ปอศ. ตรวจสอบเส้นทางรถคันนี้พบว่าโรงงานผลิตและตัวแทนบริษัทจัดจำหน่ายที่ประเทศอังกฤษ มีผู้ซื้อและใช้รถคันนี้มือแรก เป็นชาวอังกฤษ ใช้ไปประมาณ 1 ปี 6 เดือน ก็จำหน่ายรถคันนี้ เป็นรถมือสองให้บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ
จากหลักฐาน ที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าคนขาย ได้ขายรถคันนี้ราคา 91,000 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยขณะนั้น 4 ล้าน 5 แสน 5 หมื่นบาท เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554
จากนั้นรถคันนี้ก็ถูกนำเข้าไทย แต่ในใบอินวอย์แจ้งว่ารถคันนี้ มีราคา 4 หมื่น 2 พัน 500 ดอลล่าสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1 ล้าน 3 แสน 8 พันกว่าบาท
ข้อมูลที่ตำรวจ บ่งชี้ว่าเป็นการสำแดงราคารถต่ำกว่าความเป็นจริง จาก 4 ล้าน 5แสนบาท เหลือ 1 ล้าน 3 แสนกว่าบาท จะทำให้เสียภาษีนำเข้า จากที่ควรจะเป็น 14 ล้าน 9 แสนบาท เหลือเพียง 4 ล้าน 2 แสนบาท เท่ากับว่า รถคันนี้เสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงกว่า 10 ล้าน 6 แสนบาท
พนักงานสอบสวนนำหลักฐานทั้งหมดส่งพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณส่งฟ้อง แต่พนักงานอัยการเห็นว่าเอกสารหลักฐาน เป็นการสืบค้นอย่างไม่เป็นทางการไม่มีผู้รับผิดชอบโดยตรงจากอังกฤษให้การรับรอง จึงให้พนักงานสอบสวนหาหลักฐานมาใหม่ แต่ไม่สามารถหาได้ทันเวลาส่งฟ้อง จึงเท่ากับว่ารถคันนี้ไม่ถูกส่งฟ้อง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏเส้นทางของรถคันนี้ต่อจากนั้น จนกระทั่งพบว่า เป็นคันเดียวกันกับที่นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ขับไปเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุด ผลตรวจตัวอย่างเลือดของนายสุทัศน์ ที่ปรากฏว่าปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่เกินกว่าที่กกฎหมายกำหนด ทำให้แม้ตำรวจส่งฟ้องก็อาจไม่มีความผิดในคดีนี้ แต่กลับพบว่าในตัวอย่างเลือดมีสารเคมีชนิดอื่น ประกอบด้วยสารเมทแอมเฟตามีน คีตามี ซึ่งเป็นกลุ่มสารเสพิด และผลตรวจปัสสาวะ พบ ไดอะซีแพม กลุ่มยานอนหลับ แก้เครียด และนอร์ไดอะซีแพม หรือไอซ์ รวมถึง โอปิออย ซึ่งเป็นกลุ่มยาแก้ปวดอยู่ในร่างกาย
ล่าสุดพันตำรวจโทพิเชษฐ์ ก้อนแพง รองผู้กำกับการสอบสวน งานศูนย์ควบคุมจราจร 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการจราจร ตำรวจทางด่วน 1 ซึ่งรับผิดชอบคดีนี้ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่าอยู่ระหว่างสอบปากคำทีมแพทย์ผู้ตรวจตัวอย่างเลือด เพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่าเมื่อขั้นตอนรวบรวมหลักฐานแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนจะเรียกนายสุทัศน์ มาแจ้งข้อกล่าวหา กรณีพบสารเสพติดในร่างกายอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ตำรวจไม่ตรวจแอลกอฮอล์ในทันทีหลังเกิดเหตุ กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตั้งกรรมการสอบแล้ว หากพบความผิดต้องดำเนินการทางวินัยและผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย เพราะถือว่าเป็นนโยบายที่สั่งไว้นาน และรับทราบโดยทั่วกันแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง พนักงานสอบสวน ,เสี่ยเบนท์ลีย์ ,ปอศ. ,สารเสพติด ,เสี่ยจี๊บ