สังคม
'ครูยุ่น' ปัดทำร้ายเด็ก แค่ลงโทษที่ลงน้ำ ด้าน รมว.พม.สั่งสอบมาตรฐานสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศ
โดย panwilai_c
3 พ.ย. 2565
125 views
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สั่งตรวจสอบมาตรฐานของสถานสงเคราะห์เอกชนทั่วประเทศ หลังเกิดกรณีคลิปเด็กในสถานสงเคราะห์ เอกชนสมุทรสงคราม ถูกทำร้ายร่างกาย และมีข้อกล่าวหาว่ามีการใช้แรงงานเด็ก ขณะที่นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ผู้ได้รับอนุญาตเปิดสถาน สงเคราะห์เอกชนสมุทรสงคราม เข้ารับทราบข้อกล่าวหายืนยันไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่เป็นการลงโทษ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเด็กสถานสงเคราะห์ดังกล่าว
นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น อดีต สว.จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ผู้ได้รับอนุญาตสถาน สงเคราะห์เอกชน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย กรณีปรากฎว่าคลิปภาพเด็กในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว 8 คน ถูกทำร้ายร่างกาย และยังมีข้อกล่าวหาว่าเด็กสถานสงเคราะห์ดังกล่าว หลายคนถูกบังคับ ใช้แรงงาน อย่างผิดกฎหมาย
นายมนตรี แถลงต่อสื่อมวลชนว่าได้ให้การปฎิเสธต่อพนักงานสอบสวน และยอมรับว่าคลิปที่ปรากฎดังกล่าวน่าจะถูกบันทึก และเผยแพร่โดยเด็กในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว ที่อาจมีความไม่พอใจมาก่อนหน้านี้ด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่ปรากฎตามคลิปภาพ นายมนตรี ระบุว่าไม่ใช่การทำร้ายแต่เป็นการลงโทษเด็ก หลังจากมีการรวมกลุ่มกันลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำแม่กลอง โดยที่มีบางคน ว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งนับว่าอันตรายมาก
นายมนตรี ยังระบุว่ามีเด็กหลายคนในสถานสงเคราะห์ ที่มีพฤติกรรมอันตรายจากเรื่องยาเสพติด และขโมยทรัพย์สิน แต่ไม่เคยแจ้ง ความ เพราะไม่ต้องการให้เด็กมีประวัติเสียหาย แต่ก็ยอมรับว่าใช้ความอดทนไม่น้อย เพื่อจะแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าว
ส่วนข้อกล่าวหาว่าใช้แรงงานเด็กให้ทำงานในรีสอร์ท นายมนตรีระบุว่า เป็นความสมัครของเด็กที่ต้องการมาทำงานหรือพบปะเพื่อน แต่ไม่ได้บังคับหรือว่าจ้างในลักษณะ เป็นลูกจ้าง
ขณะเดียวกันก็ระบุว่า หากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อนำเด็กไปอยู่ที่อื่นก็ขึ้นอยู่กับภาครัฐ แต่มูลนิธิยังคง อยู่ และหากเด็กจะขอมาอยู่กับมูลนิธิ ก็ยอมรับได้
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้าไปสถานสงเคราะห์นี้แล้ว พบว่ามีเด็กและเยาวชน อยู่ที่นี่ 55 คน โดย 8 คน ที่ปรากฏในคลิป ว่าถูกทำร้ายนั้น และคนอืน่อีก 23 คน ถูกพาไปอยู่ในความคุ้มครอง ของบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม ยังเหลือ 24 คน ที่ยังอยู่ในมูลนิธิ
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่าข้อเท็จจริงเรื่องเด็กถูกทำร้ายเป็นขั้นตอน การสอบสวนของตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ มีหน้าที่ประเมินว่าสถานสงเคราะห์ ถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ส่วนจะสั่งปิดหรือไม่ เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
นายจุติยังระบุว่าได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ ประสานไปหาผู้ปกครองของเด็กที่เหลือ เพื่อสอบถามว่าจะสมัครใจ ให้อยู่ในสถานสงเคราะห์ ดังกล่าว หรือรับกลับไปดูแล และหากเป็นเด็กกำพร้า ก็จะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแล ขณะเดียวกัน ก็สั่งให้ตรวจสอบ ความเหมาะสม หรือความพร้อมของสถานสงเคราะห์เอกชน ทั้งสำหรับเด็ก และคนชรา ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำและประเมิน ความพร้อมหรือศักยภาพในการเปิดเป็นสถานสงเคราะห์เอกชนด้วย