คุมตัวทำแผน หน.การ์ด ถล่มยิงหน้าผับอุบลฯ รับยิงนัดแรกเปิดศึก

ตำรวจนำหัวหน้าการ์ดร้าน อาหารกึ่งผับชื่อเอกมัย 487 ไปทำแผน หลังจากเข้ามอบตัวพร้อมสารภาพว่า เป็นผู้ยิงหัวหน้าการ์ดร้านพญายอ ระหว่างเข้าไปตกลงปัญหาขัดแย้ง จนกลายเป็นนัดแรกที่ทำให้เกิดการปะทะกันสองฝ่าย ขณะตำรวจระบุว่ามีผู้ถูกดำเนินคนเดียวก่อน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างสอบสวนแยกแยะพฤติกรรม เพื่อแจ้งข้อกล่าว รวมถึงเร่งตามอาวุธสงครามที่เหลือ



นายภิวัฒน์ หรือโชค นามศิริ หัวหน้าการ์ดร้านอาหารกึ่งผับชื่อเอกมัย 487 ซึ่งเข้ามอบตัวกับตำรวจพร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมต ที่ใช้ก่อเหตุ ถูกตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดฉากยิงเข้าใส่กันของการ์ดร้านอาหารสองแห่งเมื่อสองคืนก่อน



จุดแรกที่ทำแผนคือหน้าร้านเอกชัย 487 ซึ่งนายภิวัฒน์ ยืนอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปพูดคุยกับนายโชคทวัตร พันธุ์กว้าง หรือเปิดบ้านขามใหญ่ โดยนายโชคทวัตร ก็เป็นหน้าการ์ดร้านพญายอ และทั้งสองร้านของใกล้กัน มีเพียงร้านอาหารประเภทแจ่วฮ้อนร้านหนึ่ง คั่นกลาง



นายภิวัฒน์ สารภาพว่าเขาไปเจรจากับนายโชคทวัตร ที่ห้องวีไอพีของร้านพญายอ แต่ตกลงกันไม่ได้และยังทะเลาะกันอีก เขาจึงยิงนายโชคทวัตรด้วยปืนขนาด 9 มม.ที่พกตัวติดตัว



เมื่อยิงเสร็จก็วิ่งกลับมาที่ร้านเอกมัย 487 หลังจากนั้นการ์ดของร้านพญายอ ที่รู้ว่าหัวหน้าการ์ดของตัวเองถูกยิง ก็ยิงตามมาและทั้งสองร้านก็เปิดฉากยิงเข้าใส่กัน โดยมีผู้เสียชีวิตอีกคน คือนายนายตะวัน ธรรมใจ หรือคิง หาดวัดใต้ ซึ่งอยู่ที่ร้านเอกมัย 487 ถูกกระสุนและล้มฟุบเสียชีวิตอยู่บริเวณลานจอดรถ นายภิวัฒน์ ระบุว่าการปะทะกันเกิดขึ้นราว 10 นาที จากนั้นก็แยกย้ายหลบหนี



ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยืนยันพบปลอกกระสุนทั้งที่ใช้กับปืนอาก้า / เอ็ม 16 / ลูกซองยาว / 9 มม. และ 11 มม.



พลตำรวจตรีสถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ยืนยันว่าตอนนี้ผู้เสียชีวิตยังมีเพียง 2 คน ซึ่งอีกหนึ่งคนที่มีรายงานว่าเสียชีวิตเพิ่มนั้น ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ขณะเดียวกัน ก็ระบุว่าตำรวจดำเนินคดีนายภิวัฒน์ คนเดียวก่อน ในข้อหาฆ่าคนตายและข้อหาเกี่ยวกับอาวุธ ส่วนคนอื่นๆ ทั้งที่มามอบตัว และที่บาดเจ็บอยู่ระหว่างรักษาตัว ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อแยกแยะพฤติกรรมและความเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ เพื่อจะแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง



ตอนนี้นอกจากเร่งสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและติดตามคนที่ยังไม่มอบตัวแล้ว ตำรวจยังเร่งติดตามหาปืนและที่มาของอาวุธสงครามที่คู่อริทั้งสองฝ่ายใช้ แต่ขณะนี้ตำรวจยึดได้เพียงปืนขนาด 9 มม.กระบอกเดียว แต่จากปลอกกระสุนที่ตกอยู่ ยังมีปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. /ลูกซองยาว /อาก้า และเอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธสงคราม