สังคม
จับเพิ่ม 2 ผู้ต้องหา กราดยิงเมืองอุบลฯ รอง ผบ.ตร. ยัน ไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มผู้มีอิทธิพล
โดย panwilai_c
6 ส.ค. 2565
121 views
ผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่การ์ดร้านอาหารสองกลุ่ม ยิงปะทะกันที่อุบลราชธานี ถูกออกหมายจับเพิ่มอีก 3 และตำรวจยึดปืนสั้นได้อีก 3 กระบอก โดยที่ยังตามหาอาวุธอีกหลายชนิดของทั้งสองกลุ่ม ซึ่งปลอกกระสุนที่ตกอยู่มากกว่า150 ปลอก บ่งชี้ว่ามาจากปืนอย่างน้อย 6 กระบอกที่ต่างชนิดกัน
ผลจากการที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 3 และภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กระจายกำลังตรวจสอบบ้าน และที่พักของแก๊งหาดวัดใต้ กับบ้านขามใหญ่ รวม 9 จุด ทำให้ยึดปืนมาได้อีก 3 กระบอก เป็นปืนสั้นทั้งหมด และจับผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 2 คน
โดยการตรวจค้นฝั่งแก๊งหาดวัดใต้ เข้าค้นบ้านนายตะวัน ธรรมใจ หรือคิง หาดวัดใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต พบปลอกแม็กกาซีนปืนแบบ bb กัน ตำรวจเก็บไปตรวจสอบแล้ว ค้นที่บ้านบิดาของนายภิวัฒน์ หรือโชค นามศิริ ที่มอบตัวและสารภาพว่า เป็นผู้ลั่นไกยิงปืนนัดแรกใส่คู่อริจนเสียชีวิตจนเป็นที่มาของการปะทะกันสองฝ่ายในคืนนั้น ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยเพื่อนบ้านบอกว่า ที่บ้านนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัยนานนับเดือนแล้ว
อีกด้านหนึ่ง คือแก๊งบ้านขามใหญ่ ตำรวจค้นบ้านนาย อพลรัตน์ พันธุ์กว้าง หรือแห บ้านขาม น้องชายนายโชคทวัตร ซึ่งเป็นคนแรกที่ถูกนายภิวัฒน์ยิง หลังการตกลงปัญหาส่วนตัวแล้วไม่เป็นผล ซึ่งตรวจค้นแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับการค้นบ้านนายอภิสิทธิ์ หมื่นแก้ว ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
วันนี้พนักงานสอบสวนขอศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับนายอพลรัตน์ พันธุ์กว้าง หรือแห บ้านขาม กับนายสมชาย ศรีหิน หรือชาย หาดวัดใต้ ข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน ข้อหาร่วมกันยิงปืน และข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น เพราะมีหลักฐานในคืนก่อเหตุชัดเจน และตอนนี้ทั้งสอง อยู่ในการควบคุมของตำรวจแล้ว
พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วรวม 3 รายคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีอีก 2-3 ราย และผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้วในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นนั้น กำลังพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มมาตรา 294 ร่วมกันชุลมุนตั้งแต่3คนขึ้นไป
ขณะเดียวกันได้ตรวจยึดของกลางอาวุธปืนจากผู้ต้องหาแล้ว 3 กระบอก อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ เพราะในที่เกิดเหตุเก็บปลอกกระสุนปืนได้มากกว่า 150 ปลอก จากปืน 5-6 ชนิด
รอง ผบ.ตร.ยังระบุว่า ผลสอบสวนบ่งชี้ว่า การทะเลาะมาจากเรื่องส่วนตัวของสมาชิกในแก๊งสองแก๊ง ก่อนจะบานปลายกลายเป็นปะทะกันของสองฝ่าย ซึ่งแก้ปัญหาแบบวัยรุ่นที่ขาดสติ โดยรองผบ.ตร.ระบุว่า ไม่ใช่กลุ่มผู้มีอิทธิพล