สังคม

จนท.ปกครอง เข้าจับผู้เกี่ยวข้อง พูลวิลล่าเถื่อนในหมู่บ้านจัดสรรนาจอมเทียน ชาวบ้านโล่ง ได้ความสงบกลับคืน

โดย panwilai_c

2 ก.ค. 2565

1.2K views

ความคืบหน้ากรณีประชาชนร้องเรียน ได้รับผลกระทบจากพูลวิลล่าเถื่อนในหมู่บ้านจัดสรร ย่านนาจอมเทียน ที่พัทยา หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าตรวจสอบ-จับกุมนายหน้า และผู้เช่า ส่งฟ้องศาล ปรากฏว่าค่ำคืนที่ผ่านมา บรรยากาศในหมู่บ้านกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แต่ก็ต้องจับตาดูกันต่อไป จะมีใครลักลอบฝ่าฝืน-กลับมาเปิดอีกหรือไม่ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้หมู่บ้านจัดสรร ไม่สามารถประกอบธุรกิจลักษณะบ้านพักแบบพูลวิลล่า และถ้าอยากจะทำโรงแรม รีสอร์ท หรือที่พักแบบโฮมสเตย์ ต้องทำอย่างไร



เสียงสะท้อนจากประชาชนในหมู่บ้านวิวพอยท์ พัทยา ผลกระทบจากเสียงเพลงและไมโครโฟน รถยนต์ที่จอดขวางไม่เป็นระเบียบ จากหมู่บ้านจัดสรรกลายเป็นโรงแรมที่มีผับบาร์-คาราโอเกะ หลายคนนอนไม่หลับ หนักถึงขนาดที่บางรายต้องขึ้นป้ายประกาศขายบ้าน แต่สำหรับบางคน ที่นี่คือน้ำพักน้ำแรง เป็นบ้านหลังเดียวและหลังสุดท้าย ที่ต้องออกมาสู้และใช้สิทธิโต้แย้งตามกฏหมาย



วิวพอยท์ พัทยา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินสุดฮิตของวัยรุ่นพูลวิลล่า เจ้าของบ้านส่วนหนึ่งมองเห็นลู่ทาง จึงดัดแปลงหน้าบ้านทำสระน้ำ ก่อกำแพงสูง แบ่งห้องทำเป็นที่พักลักษณะโรงแรม บางหลังเจ้าของบ้านทำเอง แต่ส่วนใหญ่จะมีนายหน้ามาขอเช่ารายเดือน แล้วเอาไปเสนอขายในเพจและเวบไซต์ ทั้งไทยและต่างประเทศ ดึงดูดด้วยโปรโมชั่นกดราคาให้ต่ำกว่าที่พักหรูในพัทยาและบางละมุง ไม่มีการตรวจคัดกรอง ไม่ต้องเช็คอินด้วยบัตรประชนหรือพาสปอต ไม่เสียภาษี และไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน



นายหน้าคนส่วนถูกจับ และส่งฟ้องศาล ส่วนหนึ่งยอมรับว่า ไม่ได้มีระบบ-ระเบียบใดรองรับ เพียงแต่บางครั้งอาศัยการขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการ งดใช้เสียงหลังสี่ทุ่ม แต่ด้วยความหลากหลายของผู้คน จึงยากที่จะห้ามปราม ซึ่งบางคนอ้างว่าเข้ามาทำเพราะเห็นหลายคนทำ บางกลุ่มมาใช้บริการเพราะเห็นว่าราคาถูก เป็นส่วนตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขหรือข้อบังคับที่ยุ่งยาก เหมือนโรงแรม



พูลวิลล่าไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ที่ผิดกฏหมายเพราะไปทำในหมู่บ้านจัดสรร โดย พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน 2543 ระบุไว้ชัดเจน คือ



1. กรณีผู้จัดสรรที่ดิน จะนำอาคารบ้านจัดสรรไปขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม หรือขออนุญาตจดแจ้งไม่เป็นโรงแรมนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกา เคยพิจารณาตอบข้อหารือกรมที่ดิน ไม่อาจกระทำได้ เนื่องจากเป็นการขัดวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน



2. กรณีผู้ซื้อที่ดินจัดสรร เจ้าของกรรมสิทธิ์ จะนำอาคารบ้านจัดสรรไปขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม หรือขออนุญาตจดแจ้งไม่เป็นโรงแรม ศาลปกครองสูงสุดเคยวางหลักคำวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าว ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ตัดสินว่า การที่ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรนำเอาอาคารบ้านจัดสรรของตน นำไปแจ้งขอทำธุรกิจโรงแรมสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม อาจเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายจัดสรรที่ดินเช่นเดียวกับกรณีที่ 1



โดยสรุปคือ การเอาบ้านพักส่วนตัวไปทำพูลวิลล่า โรงแรม หรือโฮมสเตย์ ทำได้ แต่ต้องไม่ใช่ในหมู่บ้านจัดสรร หรือชุมชนที่พักอาศัย ซึ่งมีขึ้นตอนที่สามารถไปสอบถาม หรือขออนุญาตเพื่อพิจารณาได้ที่ว่าการอำเภอ

คุณอาจสนใจ

Related News