สังคม

เปิดชีวิต 'ปูเสฉวน' เทศบาลแห่งชายหาด เตือนคนจับไปเลี้ยง กำลังทำลายระบบนิเวศ

โดย panwilai_c

28 เม.ย. 2565

101 views

ปัจจุบันผู้เลี้ยงสัตว์จำนวนมากเริ่มหาสัตว์แปลกๆ มาเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ซึ่งปูเสฉวน คือ 1 ในนั้น แต่ส่วนใหญ่มักถูกจับมาจากธรรมชาติ เนื่องจากปูสายพันธุ์นี้ยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล เตือนไม่สามารถทำได้ และที่สำคัญปูสายพันธุ์นี้มีความสำคัญต่อระบบนิเวศตามธรรมชาติเป็นอย่างมาก และกำลังได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมนี้ของมนุษย์



ภาพปูเสฉวนออกหากินยามเช้าและยามเย็น เป็นภาพคุ้นตาของนักท่องเที่ยวหลายคน ด้วยรูปลักษณ์สะดุดตาจากลวดลายบนเปลือกหอย ทำให้พวกมันแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ปูเสฉวนบก และ ปูเสฉวนน้ำ



พฤติกรรมของพวกมันมักหากินตามชายหาดและใต้ท้องทะเล อาหารส่วนใหญ่จึงเป็นพวกซากพืชซากสัตว์ ความสำคัญของพวกมันจึงเป็นผู้ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุตามธรรมชาติ หรือ เปรียบเสมือนหน่วยกำจัดขยะนั่นเอง



ปูเสฉวนแต่ละตัวมีอายุยืนระหว่าง 2 - 20 ปี เมื่อเติบโตขึ้น ก็จำเป็นต้องย้ายบ้านด้วยการเปลี่ยนเปลือกหอยไปเรื่อยๆ ตามขนาดตัว โดยมีเวลาจำกัดเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นพวกมันก็จะตาย ภาพปูเสฉวนในขวดแก้ว คือ ผลกระทบที่เห็นได้อย่างชัดเจน จากจำนวนของเปลือกหอยที่ลดลงไปจากธรรมชาติ



โครงการวิจัยด้านอนุกรมวิธานทางทะเลอย่างยั่งยืน ของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัย บูรพาได้ต่อยอดงานวิจัยทางระบบนิเวศชายฝั่ง ที่เก็บข้อมูลมานานกว่า 10 ปี

โดยวันนี้เป็นวันที่ ดร.สุเมตต์ ปุจฉาการ หัวหน้างานวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ได้นำนักวิจัยของโครงการลงเก็บข้อมูลระบบนิเวศพื้นที่ชายหาดตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต มาจนถึงชุมพร



ซึ่งพบว่าประชากรปูเสฉวนในปัจจุบันลดลงอย่างน่าตกใจ สังเกตได้จากร่องรอยการหากินของพวกมันบนชายหาด เป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป จำนวนเปลือกหอยที่ลดน้อยลง จากน้ำมือมนุษย์ที่นำบ้านของพวกมันไปทำเป็นเครื่องประดับและสินค้าที่ระลึก รวมถึงนำปูเสฉวนไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม



แต่ความจริง คือ ปูชนิดนี้ไม่สามารถนำมาเพาะพันธุ์ได้ เพราะต้องอาศัยระบบนิเวศแบบเปิดในการขยายพันธุ์เท่านั้น



ปัจจุบันปูเสฉวนยังไม่ได้อยู่ในรายชื่อของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า แต่ก็มีกฎหมายพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ คุ้มครองสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยาน แต่ไม่ว่าสัตว์ตัวนั้นจะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ การปล่อยให้พวกมันอยู่ในระบบนิเวศดั้งเดิมจึงเหมาะสมที่สุด เพราะปูเสฉวนที่หายไป 1 ตัว อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลได้ในอนาคต

คุณอาจสนใจ

Related News