สาวร้อง! โดนฟ้องฉ้อโกงไม่รู้ตัว อดีตหัวหน้านำข้อมูลส่วนตัวไปปลอมเป็นท้าวแชร์

สภาทนายความรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือทางคดีเบื้องต้น กรณีพนักงานบริษัทถูกผู้เสียหายจากแชร์เงิน และทองแท่งฟ้องคดีฉ้อโกง โดยอ้างว่าถูกหัวหน้างานนำข้อมูลส่วนตัวไปปลอมแปลงเป็นเท้าแชร์ ขณะศูนย์ช่วยเหลือกระทรวงยุติธรรม เร่งพิจารณาหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเงินประกันและทนายความสูคดี

กรณีพนักงานหญิงของบริษัทแห่งหนึ่ง นำบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคาร ไปเป็นหลักประกันกู้เงินจากอดีตหัวหน้างานในบริษัทเดียวกัน แต่ถูกอดีตหัวหน้างานนำข้อมูลไปใช้ตั้งวงแชร์เงินสด และทองแท่งแล้วเกิดปัญหา ทำให้เธอ ซึ่ งมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารถูกฟ้องฐานฉ้อโกง เฉพาะ 3 คดี เกือบ 2 ล้านบาท และยังมีผู้ร่วมวงแชร์อีกกว่าร้อยคน ที่อาจจะฟ้องเธอด้วย 

นางสาววีณา มะลิชื่น นำข้อมูลหมายศาลที่เธอถูกฟ้อง ยื่นต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมอีกครั้ง พร้อมติดตามความคืบหนากรณีที่เธอขอความช่วยเหลือกองทุนยุติธรรม กรณีที่เธอถูกผู้เสียหายในวงแชร์ฟ้องฐานฉ้อโกง โดยที่เธอ้างว่าเธอไม่เกี่ยวข้องในวงแชร์ดังกล่าว แต่ข้อมูลส่วนตัว และบัญชีธนาคารเป็นของเธอ ถูกอดีตหัวหน้างานของเธอนำไปปลอมแปลง เป็นใส่รูปคนอื่น แต่ใช้ชื่อ-นามสกุล และเลขบัญชีของเธอ แล้วตั้งวงแชร์เงินและทองแท่ง จนมีผู้เสียหาย และดำเนินคดีกับเธอที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี

นางสาววีณา อ้างว่านี่คือบทเรียนสำคัญที่นำหลักฐานการเงินไปให้คนอื่น แต่ช่วงเวลานั้นคือคำวามจำเป็นที่เธอต้องยืมเงินอดีตหัวหน้างาน และต้องมอบสมุดบัญชี บัตร ATM กับสำเนาปปช.ให้อดีตหัวหน้างานไว้ ตอนนี้เธออ้างว่ามีผู้นำขอมูลของเธอไปสร้างตัวตนในเฟสบุ๊กและไลน์เพื่อหลอกลวงคนอื่น เธอจึงต้องร้องเรียนเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

เจ้าหน้าที่แนะนำนางสาววีณา ในประเด็นที่เธอต้องทำเรื่อง เพื่อขอให้ศาลธัญบุรี และศาลเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เลื่อนการพิจารณาไต่สวนมูลฟ้อง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายนออกไปก่อน ในระหว่างที่หาทนายความและรอว่าคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือประจำกรุงเทพมหานคร จะพิจารณาอนุมัติช่วยเหลือหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวหรือไม่ เพราะมีเกณฑ์ที่ต้องพิจารณาหลายประเด็น โดยเฉพาะดูว่ามีกฎหมายอื่นที่ให้ความช่วยเหลือ ในกรณีนีอยู่แล้วหรือไม่ เช่นกรณีที่ศาลนั้นๆ มีทนายความอาสาอยู่แล้ว ก็สามารถใช้ทนายความอาสาได้

นางสาววีณา ยังได้ไปยื่นคำร้องต่อสภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายโดยเฉพาะทนายความที่จะช่วยพิสูจน์ข้อเท็จจริงของเธอผ่านกระบวนการยุติธรรม

ทางด้าน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า จะนำเสนอเรื่องนี้ต่อสภาทนายความเพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะต้องสืบขอเทจจริงให้ชัดว่าผู้มาร้องเรียน มีส่วนรูเห็นหรือไดประโยชน์หรือไม่ รวมถึงขยายผลไปถึงคนที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้นำข้อมุลนี้ไปแอบอ้างหาผลประโยชน์ด้วย