เลือกตั้งและการเมือง

สว. รวมพลังเปิดวอร์ถล่ม "ก.ยุติธรรม-ดีเอสไอ" ด้าน "ฉัตรวรรษ" ใส่เสื้อน้ำเงิน ซัดหมิ่นประมาท

โดย nutda_t

4 มี.ค. 2568

81 views

4 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ในฐานะประธานคณะกรรมมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เสนอญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เสนอหลักการว่า กระบวนการยุติธรรมไทยมีความล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการแทรกแซงและครอบงำจากฝ่ายการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะการดำเนินการของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน มีผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของผู้ต้องขัง

อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีที่ให้สิทธิ์ผู้ต้องขังในการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการที่มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิพิเศษในการเข้ารักษาพยาบาลกว่าผู้ต้องขังผู้อื่น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องชาวอุยกูร์ที่มีการดำเนินการที่ไม่โปร่งใสขาดความชอบธรรม เห็นได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จนถูกประณามจากองค์กรต่างๆ ระหว่างประเทศ

“การดำเนินการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขาดความรอบคอบในการพิจารณาดำเนินการตามหลักสากล ขาดความรู้ความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสียหายกับประเทศชาติได้ในอนาคต” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวต่อถึงการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ร่วมกันแถลงข่าว จงใจกลั่นแกล้งกล่าวหาว่าการได้มาดังกล่าว มีการฮั้ว เป็นอั้งยี่ และกระทำผิดฟอกเงิน มีความผิดความมั่นคงของชาติ สว.ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ว่าได้รับตำแหน่งมาโดยไม่ชอบธรรม โดยการสมยอมรวมหัวกัน เพื่อให้ได้เป็น สว. โดยไม่สุจริตและโปร่งใส เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งฝ่ายกฎหมายวุฒิสภากำลังพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า ในการกล่าวหา ให้ข่าวกับสื่อมวลชนในลักษณะเหมาเข่ง ทั้งๆ ที่อธิบดีดีอเอสไอมีอำนาจตามกฎหมายอาญาและ พ.ร.ป.คดีพิเศษ สามารถดำเนินการได้หากพบว่ามีพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะสืบสวนสอบสวน แต่กลับกันอธิบดีดีเอสไอกลับพยายามที่จะทำให้เป็นคดีพิเศษ โดยเฉพาะการเสนอต่อคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (คกพ.) แต่การประชุมที่ผ่านมาเกิดปัญหาโรคเลื่อน อ้างว่ายังไม่ได้นำเข้าการพิจารณาประชุมของอนุฯกลั่นกรอง จะเห็นได้ว่าการทำงานของอธิบดีดีเอสไอขาดความรอบคอบในการที่จะนำเสนอเรื่องเข้าบอร์ดพิจารณา ทั้งที่มีอำนาจหน้าที่จะกระทำได้ แต่ยังนำเรื่องเพื่อให้บอร์ดพิจารณาให้ตนเองมีอำนาจหน้าที่ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่ากรณีการได้มาของ สว.เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ยังได้แถลงข่าวเป็นรายวัน เพื่อขอความชอบธรรมจากสังคม ที่จะดำเนินการสอบสวน จัดให้มีการรับเรื่องร้องเรียนเป็นรายวัน เพื่อให้เห็นว่ามีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นวงกว้างทั่วประเทศ มุ่งหวังให้สังคมเห็นว่าการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาไม่สุจริตและเที่ยงธรรม การกระทำดังกล่าวมีการล็อกเป้าหมายในการดำเนินคดี โดยอ้างว่ามีกลุ่มส.ว. 138 + 2 ซึ่งตัวเลขนี้ก็ไม่ทราบว่าจะสามารถเปิดเผยหรือดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ได้หรือไม่ จึงสงสัยว่าการสืบสวนสอบสวนนี้สามารถล็อกเป้ากลุ่ม สว. โดยแยกประเภทสีได้อย่างไร โดยเฉพาะการมุ่งเน้นมาที่สีน้ำเงิน



"วันนี้ผมใส่เสื้อสีน้ำเงินมาเพื่อขออภิปราย พร้อมที่จะรับแจ้งข้อกล่าวหาจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากท่านมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ท่านเคยได้ยินไหมครับ 0 มีค่ามากกว่า 1 นักคณิตศาสตร์ระดับโลกยังคิดไม่ได้ แต่มีผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทยสามารถที่จะคิดได้ ในการที่จะทำให้ 0 มีค่ามากกว่า 1 และได้จำนวนสมาชิกวุฒิสภาเข้ามาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงนี้มีเพื่อนสมาชิกที่ได้ไปพักโรงแรมใกล้กับอิมแพค เมืองทองธานี ได้พบเห็นมีการปิดห้องประชุมรับมีผู้เข้าประชุมประมาณ 400 คน มีการแจกจ่ายเอกสารหมายเลขที่จะให้เลือก ซึ่งลักษณะเช่นนี้ อธิบดีดีเอสไอ ท่านรู้หรือไม่ ได้รับการร้องเรียนหรือไม่ ท่านพอจะมีข้อมูลทำการสืบสวนเพื่อเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ผลสุดท้ายจากการดำเนินการก็ได้ตัวเลขออกมาที่น่าสนใจคือ 21 + 24 คล้ายคลึงกับตัวเลข 138 + 2 เพราะฉะนั้น ผมฝากปัญหาว่า 2 ตัวเลขชุดนี้ ท่านอธิบดีดีเอสไอ สามารถสืบสวนสอบสวนตามที่ท่านกล่าวหาเป็นการอั๊งยี่ ฟอกเงินหรือไม่” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว

จากนั้นได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  สว. ,ดีเอสไอ ,กระทรวงยุติธรรม

คุณอาจสนใจ

Related News