เปิด 4 ข้อตกลง ยุติศึก 2 มูลนิธิดวลปืนกลางกรุง สั่งหาตัวมือยิง-สอบปมกู้ภัยพกปืน

สังคม

เปิด 4 ข้อตกลง ยุติศึก 2 มูลนิธิดวลปืนกลางกรุง สั่งหาตัวมือยิง-สอบปมกู้ภัยพกปืน

โดย panwilai_c

14 ม.ค. 2565

134 views

ความคืบหน้ากรณีเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างอาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิเพชรเกษมเมื่อคืนที่ผ่านมา จนเรื่องบานปลายกลายเป็นการดวลปืนกันกลางกรุง ล่าสุดผู้บริหาร 2 มูลนิธิ นั่งโต๊ะเจรจาต่อหน้าตำรวจเพื่อจบศึกแล้ว พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุส่งตำรวจ



อาสาสมัครชุดสีแดง คือ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม พยายามบังคับให้อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูคนหนึ่งลบคลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่แยกพงษ์เพชร ที่เกิดขึ้นช่วงเกือบเที่ยงคืน



และพยายามตะโกนเรียกหาตัวของอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูคนหนึ่งที่อ้างว่าใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า และพยายามใช้มีดแทงอาสาฯเพชรเกษม แล้วยังบอกด้วยว่าให้ออกมาเคลียร์กันไปให้จบๆ ก่อนจะค่อยๆ ทยอยออกจากพื้นที่ไปทีละคัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณเที่ยงคืนกว่าที่ผ่านมา ที่แยกพงษ์เพชร



ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นาย เกียรติศักดิ์ มานุชานนท์ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จุดบางกรวย จ.นนทบุรี ปากแตก เลือดกำเดาไหล และฟกช้ำตามตัว เขาอ้างว่าถูกอาสาเพชรเกษมรุมทำร้าย



จากนั้นราว ตี 1 ครึ่ง ตำรวจ สน.โคกครามได้รับแจ้งเหตุยิงกัน ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนเกษตรนวมินทร์ ฝั่งขาออก ช่วงเสาตอม่อที่ 71-72 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว มีผู้บาดเจ็บ 2 คน คือ นาย พิสิฐชัย ไทยศิริมงคล อายุ 42 ปี คณะกรรมการมูลนิธิเพชรเกษม ที่ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวเข้าที่ขาซ้าย บาดเจ็บเล็กน้อย และอีกคนคือ นาย สยาม เติบโต วัย 39 ปี อาสาสมัครมูลนิธิเพชรเกษม กระสุนแฉลบท้อง



และในที่เกิดเหตุ ยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. และขนาดจุด 38 มากกว่า 10 นัด ตกเกลื่อนถนน จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า เป็นเหตุต่อเนื่องจากมาที่แยกพงษ์เพชร ที่ 2 มูลนิธิมานัดเคลียร์ใจกันแล้วเกิดวิวาทกันต่อที่นี่ จนเรื่องบานปลายยิงใส่กันทั้ง 2 ฝ่ายจนมีคนบาดเจ็บ



วันนี้ที่ สน.โคกคราม นาย สยาม 1 ในเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงในปั๊มน้ำมัน เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ได้เปิดแผลที่โดนยิงบริเวณท้องให้ผู้สื่อข่าวดู และบอกว่า คู่กรณียิงมาโดนกระเป๋าคาดเอวแฉลบเข้าท้อง โชคดีกระสุนไม่ฝังใน ทำให้ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ซึ่งตอนที่เกิดเหตุเขามาขอต่อใบอนุญาตสมาชิกมูลนิธิ ที่ปั๊ม ปตท. จุดเกิดเหตุ พอมาถึงก็ทราบว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันก่อนหน้านี้ที่แยกพงษ์เพชร แต่ไม่ทราบรายละเอียด จากนั้นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูกว่า 20 คน ก็นำรถมาจอดหน้าปั๊ม เขาจึงเดินไปสอบถาม แล้วก็โดนยิงใส่ทันที



เพื่อให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เชิญผู้บริหารทั้ง 2 มูลนิธิเข้ามาเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมเปิดเผยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่สองมูลนิธิมีปัญหาขัดแย้งกัน ซึ่งจากการสอบปากคำพยาน ระบุว่า มีเสียงปืนดังขึ้นจากฝั่งมูลนิธิเพชรเกษม 4 นัด ร่วมกตัญญูจึงยิงกลับ พร้อมยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพชรเกษมหลายคนเคยเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญู และบางส่วนถูกให้ออกจากมูลนิธิ เพราะมีปัญหาเรื่องถูกร้องเรียน เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการแย่งเคสผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล เพราะผู้นำส่งจะได้ค่าตอบแทนจากโรงพยาบาลเอกชนที่นำส่ง



หลังการเจรจาได้ข้อสรุป 4 ข้อ คือ

1. ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงเด็ดขาดในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่าเกิดขึ้นอีก จะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที

2. ให้ทั้งสองฝ่ายพาผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งพื้นที่สน.ทุ่งสองห้อง และสน.โคกคราม มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนภายในเย็นวันนี้

3. ตำรวจจะตรวจสอบการทำงานของทุกมูลนิธิ ว่าได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

4 สั่งการให้สายตรวจตรวจค้นรถมูลนิธิทุกคัน และจะต้องไม่พกพาอาวุธทุกชนิด โดยจะเริ่มใช้ในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ก่อน



ส่วนทางด้านคดี สน.ทุ่งสองห้อง จะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย จากเหตุชกต่อยระหว่างสองมูลนิธิ สน.โคกคราม ดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า เพราะมีการยิงใส่กัน



ขณะที่นาย เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ยอมรับในข้อตกลง พร้อมบอกว่า นี่เป็นครั้งที่ 5 ที่เกิดเหตุวิวาทระหว่าง 2 มูลนิธินี้ และตาม MOU ระหว่างศูนย์เอราวัณ มีเพียง 8 มูลนิธิที่ได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งมูลนิธิเพชรเกษม ไม่ได้อยู่ในจำนวนที่ได้รับอนุญาต



ด้านนาย บัญชา ศรีนิลพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพฯ ก็ยอมรับข้อตกลงเช่นกัน และชี้แจงเรื่องนี้ว่า การขอใบอนุญาตช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กรือ สพฉ. และศูนย์เอราวัณ ขณะนี้ได้ยื่นเอกสารไปทั้งหมดแล้ว และได้รับการรับรองจาก สพฉ.แล้ว ยังเหลือแค่ของ ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่อนุมัติ แต่มูลนิธิมีความพร้อมทั้งเครื่องมือและบุคลากร และที่เลือกออกปฏิบัติงานวันเดียวกับมูลนิธิร่วมกตัญญู เพราะอาสาส่วนใหญ่ก็ออกมาจากมูลนิธิร่วมกตัญญู



ตามขั้นตอนแล้วรถมูลนิธิที่จะสิ่งรับส่งผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ ต้องได้รับอนุญาตจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินหรือ สพฉ. และศูนย์เอราวัณ ซึ่งปัจจุบันมี 8 มูลนิธิ 2 มูลนิธิใหญ่คือ มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง จะแบ่งพื้นที่และสลับกันรับผิดชอบ คือ กรุงเทพฝั่งเหนือ ยาวไปถึงจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพฝั่งใต้ รวมถึงฝั่งธนบุรี ซึ่ง 2 มูลนิธินี้สามารถเก็บร่างผู้เสียชีวิตได้



ดังนั้นมูลนิธิเพชรเกษมไม่สามารถวิ่งรับส่งผู้ป่วยหรือช่วยคนเจ็บในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากเอราวัณ



ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/JU70SkGitTA

คุณอาจสนใจ

Related News