หนุ่มกู้ภัย ขอโทษขับรถย้อนศรช่วยคนเจ็บ เตรียมแจ้งความผู้โพสต์คลิปทำให้เสียหาย

จากกรณีที่โลกโซเชียลเผยแพร่คลิปรถกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม ขับรถย้อนศร และมีกู้ภัยคนหนึ่งนั่งมาด้านหลัง เสียหลักล้มขณะลงจากรถ จนได้รับบาดเจ็บปากแตก เนื่องจากรถยังเคลื่อนตัว จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ล่าสุดเมื่อช่วงสาย วันที่ 22 เม.ย. 67 นายจักรพันธุ์ สร้อยพวง เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม คนขับรถกู้ภัยที่ปรากฏในคลิป ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อขอให้ตำรวจพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลที่เป็นเจ้าของคลิปและนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ จนทำให้ตนเอง น้องกู้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บ และองค์กร ได้รับความเสียหาย ถูกนำรูปมาประจาน เพื่อให้ชาวโซเชียลเข้ามาด่าทอ รวมไปถึงเจ้าของกล้องหน้ารถที่เป็นต้นตอคลิปดังกล่าว มีการพูดจาเยาะเย้ย ดูหมิ่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่ออีกฝ่ายก็เป็นกู้ภัยเหมือนกัน จะไปช่วยคนเจ็บเหมือนกัน เมื่อเห็นคนเจ็บอยู่ตรงหน้า เหตุใดจึงไม่ลงมาช่วยดู แต่กลับเยาะเย้ย ถ้าจะทำเช่นนั้นแล้วจะไปจุดเกิดเหตุทำไม หรือไปแค่เพียงเพราะต้องการถ่ายคลิปเยอะเย้ยพวกของตนเองเท่านั้น

นอกจากนี้ นายจักรพันธุ์ ยังบอกถึงสาเหตุที่ต้องย้อนศรในครั้งนั้นว่า เนื่องจากตนเองได้รับแจ้งอุบัติเหตุมีคนเจ็บหลายราย บริเวณ กม.4 แต่ไม่ทราบพิกัดแน่ชัด เมื่อมาถึงบริเวณกองบินตำรวจ ตนเองก็เห็นรถพยาบาลของคู่กรณีขับอยู่คันหน้าและขับย้อนศร ตนเองจึงย้อนศรตาม เพราะคิดว่ามีการเคลียร์ทางไว้แล้ว หรือคงย้อนในระยะไม่ไกล และเมื่อขับย้อนศรตามกันไปถึงจุดหนึ่ง รถคันหน้าจอดติด ตนเองเห็นช่องทางซ้ายว่าง จึงเบี่ยงออกซ้ายและแซงหน้านำมา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ดังนั้นตนเองในฐานะคนขับรถ ต้องขอโทษสังคมที่ขับรถย้อนศร ไม่ปลอดภัย และยืนยันว่าที่ย้อนศร เพราะต้องการไปช่วยคนเจ็บให้เร็วที่สุด ไม่ได้มีเจตนาจะขับแข่งเพื่อแย่งคนเจ็บกับมูลนิธิอื่นแต่อย่างใด หากการมาแจ้งความในวันนี้ จะทำให้ตนเองถูกตำรวจแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ในเรื่องการขับรถย้อนศรและข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตนเองก็พร้อมย้อมรับทุกข้อกล่าวหา

ด้าน พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นตนเองได้มอบหมายให้รองผู้กำกับการสอบสวน มาควบคุมดูแลคดีนี้ โดยต้องแบ่งออกเป็นหลายส่วน ส่วนแรกคือ ความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจราจร ที่ทั้งสองมูลนิธิมีการขับรถย้อนศรฝ่าฝืนกฎจราจร รวมถึงมีการขับรถประมาทหวาดเสียว อันนี้จะต้องดำเนินการเปรียบเทียบปรับทั้งสองฝ่าย ส่วนข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เบื้องต้นทางตำรวจมีการสอบถามรถประชาชนคันที่ปรากฏในคลิปว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นประชาชนรายดังกล่าวแจ้งว่า ไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากเห็นว่าเป็นกู้ภัยที่ต้องการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จึงทำให้ในข้อหานี้อาจจะไม่มีการดำเนินการ

ส่วนข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ กู้ภัยที่ปรากฏในคลิปจะแจ้งกับคู่กรณีอันนี้ เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ ก็รอให้ผู้เสียหายดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์