ผู้นำจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ได้ให้คำมั่นในที่ประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแห่งสหประชาชาติ หรือ COP 26 ว่าจะหยุดใช้ถ่านหินเพื่อกู้วิกฤติโลกร้อนภายในปี 2030 นี้

แต่อย่างไรก็ตาม สองชาติมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง สหรัฐฯ และจีน กลับไม่ร่วมลงนามด้วย ทั้งๆที่เป็นชาติที่พึ่งพาถ่านหินมากที่สุดในโลก ขณะที่อออสเตรเลีย ประเทศผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่ก็ไม่ลงนามเช่นกัน

รายงานข่าวบอกว่า 40 ประเทศทั่วโลกที่ได้ร่วมลงนามนั้น ครอบคลุมประเทศที่มีการใช้ถ่านหินจำนวนมาก เช่น โปแลนด์, เวียดนาม และชิลี

กระนั้น ข้อตกลงดังกล่าวกลับถูกครหา เนื่องจากประเทศที่พึ่งพาถ่านหินมากที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ, จีน หรือ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่ ไม่ได้ร่วมลงนามด้วย

โดยคำมั่นสัญญาในข้อตกลงฉบับนี้ระบุว่า ชาติพัฒนาแล้วจะเลิกใช้พลังงานถ่านหินภายในปี ค.ศ. 2030 หรือโดยเร็วที่สุดหลังจากนั้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในปี 2030 ส่วนชาติกำลังพัฒนาตกลงจะเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานถ่านหินภายในปี 2040 หรือโดยเร็วที่สุดหลังจากนั้น

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า สหรัฐฯ ไม่ยอมร่วมลงนามในข้อตกลงนี้ เพราะไม่อยากให้บรรดา ส.ว.จากรัฐที่ พึ่งพาการส่งออกถ่านหินไม่พอใจนั่นเอง