บันเทิง
เข้า รพ.อีกรอบ ‘อาต้อย เศรษฐา’ เชื้อมะเร็งเริ่มโต หลังกลับมาให้คีโม
8 ต.ค. 2564
749 views
‘อี๊ฟ พุทธธิดา’ พา ‘อาต้อย เศรษฐา’ ส่งโรงพยาบาล หลังมีอาการผลข้างเคียง จากการให้คีโมครั้งใหม่ เนื่องจากพบว่าเชื้อมะเร็งที่ต่อมหมวกไตเริ่มโตขึ้น
ขอส่งกำลังใจให้กับศิลปินแห่งชาติ ‘อาต้อย เศรษฐา’ ที่หลังจากหายป่วยจากโควิด และกลับไปอยู่บ้านมาได้หลายเดือนแล้ว
ล่าสุด อาต้อย ตรวจพบว่าเชื้อมะเร็งที่เคยรักษาจนอาการดีขึ้นไปก่อนหน้านี้ เริ่มมีการกลับมาเติบโตขึ้นตรงบริเวณต่อมหมวกไต ก็เลยต้องเข้ารับการรักษาด้วยการให้คีโมใหม่อีกครั้ง แต่ปรากฏว่าหลังจากให้คีโมอาต้อยไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา อาต้อยมีอาการจากผลข้างเคียงจากการให้คีโมค่อนข้างหนัก อีฟเลยตัดสินใจพาอาต้อยไปอยู่ในความดูแลของคุณหมอ พร้อมได้เขียนเล่าอาการที่เกิดขึ้นของอาต้อยให้ทราบกันด้วยว่า
“คนแก่ป่วย1
คุณพ่อต้องกลับมาเริ่มให้คีโมใหม่ เนื่องจากหลังจากหยุดคีโมไปแล้ว 3 เดือน ก้อนที่ปอดที่เคยมีขนาด 8 ซม. ตอนเริ่มต้นรักษา ลดลงเหลือประมาณ 4 ซม. ซึ่งก็คือลดไปแล้วครึ่งนึง และยังไม่ได้มีการเติบโตขึ้นก็จริง แต่เนื่องจากคุณพ่อเป็นระยะที่ 4 มันมีการกระจายไปที่อื่นด้วย
หนึ่งในจุดที่คุณหมอพบว่าต้องให้ความสนใจและเฝ้าระวังคือ ตรงต่อมหมวกไต เนื่องจากหลังหยุดไป 3 เดือน และตรวจรอบนี้พบว่า มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ถึงไม่พรวดพราดแต่ก็ไม่วางใจค่ะ จึงต้องกลับมาให้คีโมใหม่ เปลี่ยนตัวยา และเพิ่มการให้ยาแบบมุ่งเป้า
ซึ่งหลังจากให้คีโมในวันที่ 2 ที่ผ่านมา คุณพ่อกลับมาพักที่บ้าน และในวันที่ 4 เริ่มอาเจียนและทานอาหารไม่ค่อยได้ ซึ่งก็คือผลค้างเตียงจากการคีโมนั่นเอง คุณพ่อทานอาหารไม่ลง คลื่นไส้ ทานแล้วอาเจียนมาก อี๊ฟกลัวหลายวันติดกันเกินจะขาดน้ำ และร่างกายจะอ่อนเพลียจัด จึงตัดสินใจให้คุณพ่อเข้าพักให้น้ำเกลือที่ รพ. เมื่อวานนี้ช่วงค่ำ และปรากฎว่าเช้านี้คุณพ่อท้องเสีย ซึ่งคุณหมอแจ้งไว้แล้วว่าจะมีอาการท้องเสีย ซึ่งเป็นผลค้างเคียงของคีโมอีกเช่นกัน ทำให้คิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ให้ไปให้น้ำเกลือไว้ก่อนไม่งั้นจะเพลียมากและขาดน้ำมากกว่านี้
ตอนนี้คุณพ่ออยู่ในความดูแลของคุณหมอ พอทานข้าวได้บ้างแต่ยังเพลียมากค่ะคงใช้เวลาอีก 3-4 วัน โดยที่ตอนนี้อี๊ฟไม่ได้เฝ้าคุณพ่อเอง เป็นเลขาไปเฝ้า ได้แค่ไปส่งและจัดการเรื่องที่ รพ. จนถึงเที่ยงคืนเมื่อคืน เนื่องจากอะไรไปดูในโพสต่อไปนะคะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งให้คุณพ่อนะคะ ขอให้ทุกๆคนสุขภาพแข็งแรงๆ ไม่เจ็บไม่ไข้ค่ะ #sirachayafamily #เศรษฐาศิระฉายา #หน้าที่คุณลูก”
หลังจากนั้น อีฟ ก็ได้โพสต์แจงสาเหตุที่ไปเฝ้าคุณพ่อที่โรงพยาบาลไม่ได้ ก็เพราะว่าลูกชาย น้องมีบุญ ก็กำลังป่วยและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน ซึ่ง อีฟ ได้โพสต์ภาพที่อยู่กับลูกที่โรงพยาบาล พร้อมเขียนเล่าอาการป่วยของลูกชายให้ทราบว่า
“เด็กป่วยอีก1
นี่คือสาเหตุที่ไม่ได้ไปเฝ้าพ่อค่ะ เด็กป่วยมาก่อนพ่อหลายวันเลย ตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา มีบุญ มีตัวรุมๆ ช่วงกลางวัน และอาเจียน 1 ครั้ง หม่ามี้ไลน์คุยกับป้าหมอ ป้าบอกว่าให้ลองดูอาการก่อน เพราะวัดแล้วไม่มีไข้ ก็เช็ดตัวอะไรกันไป ปรากฏตอนตี 3.40 มีบุญ ตัวร้อนจัดวัดที่บ้านได้ 39.7 และมีอาการหนาวสั่นนิดๆ แม่กะป่าป๊าเลยรีบหอบหิ้วมา รพ. ด้วยกลัวลูกจะชักเพราะไข้สูง พอมาถึง รพ.วัดไข้ได้ 40.2 จึงโดนจับแอดมิท ตามระเบียบ หมอต้องให้น้ำเกลือและยาลดไข้เพื่อให้ไข้ลง
และเนื่องจากไข้สูงมากกก มีบุญขาดน้ำและเจาะเลือด เลือดแทบไม่ออกมาเลย พยาบาลดูดไซรินจ์ นานมากกกกกก ทั้งบีบนวดแขนจิ๋ว รีดเลือดกันก็ไม่ออกมา ออกมาน้อยเดียวเท่านั้นก็ส่งตรวจได้ว่า ระดับเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดยังโอเค จึงคาดว่าไม่ใช่ไข้เลือดออก ก็นอน รพ.ไป 3 คืน มีบุญ อึออกมา 1ครั้งถ้วน!!! ก็ส่งไปเพาะเชื้อและการเพาะเชื้อต้องรอหลายวัน แม่และคุณหมอเห็นว่าไข้เริ่มๆจะคงที่และลดลงตามลำดับ จึงคิดว่าให้กลับไปดูอาการต่อที่บ้านระหว่างรอผลเพาะเชื้อ กลับมาคืนแรก มีบุญตื่นเวลาเดิมเลยเกือบตี 4 มีไข้ 38.5 ก็ให้ทานยา และเช็ดตัวไปไข้ลง ตอนเช้าก็ดูปกติไม่มีไข้สูงอะไรและอึนิ่มเหลวมาล็อตใหญ่ตอนเย็น แม่ก็คิดว่าเอาละ เชื้อคงออกไปละ
ปรากฎกลางคืนเวลาเดิมก็ไข้ขึ้นอีก 38 เช็ดตัวทานยาไปอีก พอเช้าก็ดูร่าเริงดี ดีที่ลูกยังทานอาหารได้ทุกมื้อ แต่ไข้ดูเหมือนจะต้องประคองด้วยยา เพราะพอหมดฤทธิ์ยา 4-6ชม. ไข้ก็จะขึ้นทันที
แล้วก็มาถึงเย็นเมื่อวานที่แม่ไปส่งคุณตา ก่อนไปจากบ้าน (ช่วง19.00) มีบุญก็ทำท่าจะมีไข้ 38 อีก แม่ให้ทานยา และให้ป่าป๊าเอานอนเพราะต้องพาคุณตาไป รพ.
ป้าหมอก็ส่งผลแล็ปมาแจ้งพอดีว่าเด็กติดเชื้อ ผลเพาะเชื้อในอุจจาระขึ้นเชื้อแบคทีเรีย Plesiomonas ปกติหายเองได้ แต่ถ้ายังไม่หายดี น่าจะให้ยาฆ่าเชื้อ แม่ก็กะว่าเช้าจะไปเอายาฆ่าเชื้อที่ รพ.ให้ พอแม่กลับมาถึงบ้านเที่ยงคืนกว่าๆ อาบน้ำเข้านอน เวลา 3.53 มีบุญก็ไข้ขึ้นอีก แต่สูงมาก 39.5 อีก แม่จึงให้ยา ibuprofen ตามที่หมอจ่ายไว้ให้ว่า ถ้าไข้ถึง 39 ให้ทาน ibu แม่เช็ดตัวและกล่อมนอน ไข้ค่อยๆ ลง จึงบอกป่าป๊าว่าให้ไปหาหมอพรุ่งนี้เช้า พอเช้าแจ้งป้าหมอ จึงตัดสินใจให้กลับมานอนให้ยาที่ รพ. อีกครั้ง เพราะที่ไข้ขึ้นช่วงกลางคืนเพราะไม่มีน้ำเกลือคอยช่วยขับเชื้อออกด้วย เพราะช่วงกลางวันน้องดื่มน้ำได้ตลอด แต่กลางคืนพอกลับไข้ขึ้นเพราะขาดน้ำ จึงต้องกลับมานอนรพ.อีกครั้ง
นี่คือสาเหตุที่แม่ๆไม่สามารถแยกร่างได้ ได้แต่คอยเช็คกันผ่านเทคโนโลยีกัน หวังว่าทั้งลูกทั้งคุณตาจะหายโดยเร็ว ไม่งั้นแม่ๆจะได้นอ นรพ.อีกคนแน่ #สู้ๆเนาะ”
ซึ่งก็มีคนเข้าไปให้กำลังใจอีฟกันเยอะ รวมถึงส่งกำลังใจให้อาต้อยและน้องมีบุญหายป่วยไวไวด้วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/6tFdMKpefoc
แท็กที่เกี่ยวข้อง อาต้อยเศรษฐา