บันเทิง

'อี๊ฟ' เปิดใจนาทีจากลาพ่อ 'จิ๊ก เนาวรัตน์' แต่งหน้าให้ 'อาต้อย' ทำมือมินิฮาร์ทบอกลา

โดย thichaphat_d

22 ก.พ. 2565

929 views

จากการสูญเสียคนบันเทิงคุณภาพ ‘อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา’ ศิลปินแห่งชาติผู้เป็นที่รักของคนทั้งประเทศ ซึ่งได้จากไปเมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จากโรคมะเร็งปอด ในวัย 77 ปี

วานนี้เวลาประมาณ 11.00 น. ครอบครัวศิระฉายา ทั้งภรรยาคู่ชีวิต อาเปี๊ยก อรัญญา และลูกสาว อี๊ฟ พุทธธิดา ได้ทำพิธีเคลื่อนร่างอาต้อย จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมี วินัย พันธุรักษ์ และพิชัย ทองเนียม 2 สมาชิกที่เหลืออยู่ของวงดิอิมพอสซิเบิ้ล ได้เดินทางมาร่วมรับร่างไร้วิญญาณของอาต้อยด้วย เพื่อมาที่ประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลา 1 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร




โดยก่อนเริ่มพิธีรดน้ำศพ อี๊ฟ พุทธธิดา ลูกสาวคนเดียวของอาต้อย ได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า รู้แล้วว่าสักวันนึงที่ต้องลากัน ถึงจะคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ทำทุกอย่างแล้ว พร้อมแล้ว มันก็คงไม่พอ

โดยอาการของคุณพ่อในช่วงสุดท้าย ทานได้น้อยมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ แต่ก็บางช่วงที่เริ่มสดชื่นขึ้น ทานได้เยอะหน่อย แล้วก็เริ่มทานไม่ได้สลับๆ กันไป แต่คุณพ่อก็ไม่อยากใส่สายสำหรับให้อาหาร ทางครอบครัวก็ไม่อยากบังคับคุณพ่อ เพราะอยากให้คุณพ่อมีความสุขที่สุด ก็เลยเลือกทางที่จะทำให้คุณพ่อสบายใจมากที่สุด มีความสุขมากที่สุด ตลอด 3 ปีที่คุณพ่อไม่สบาย คุณพ่อมีกำลังใจที่ดีมากๆ

พร้อมเผยถึงการเดินทางไปโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย ที่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นการบอกลากันครั้งสุดท้าย อี๊ฟบอกว่าวันที่ไปโรงพยาบาล เป็นวันที่คุณหมอนัดตรวจอาการตามปกติ ก็คาดการณ์เอาไว้ว่าคุณหมอน่าจะให้คุณพ่อนอนที่โรงพยาบาลสัก 2-3 วัน เพื่อให้น้ำเกลือหรือให้สารอาหาร หรือวิตามินเพิ่มเติม เนื่องจากพ่อทานไม่ได้และดูผอมลงเยอะมาก ผอมขนาดที่ตนสามารถอุ้มคุณพ่อขึ้นเตียงเองได้เลย

คิดว่าการไปโรงพยาบาลตามหมอนัดครั้งนี้คงไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เลยไม่ได้ไปเฝ้าคุณพ่อที่โรงพยาบาลเหมือนทุกครั้ง เพราะเป็นช่วงที่ตนเองก็ต้องไปคุยงานที่เกาะเสม็ดพอดี ก็เลยตั้งใจพาคุณแม่ไปพักผ่อน เปิดหูเปิดตาด้วย หลังจากที่เหนื่อยจากการดูแลคุณพ่อ และให้ผู้ช่วยไปอยู่ดูแลคุณพ่อที่โรงพยาบาลแทน

วันที่ส่งคุณพ่อขึ้นรถไปโรงพยาบาล ก็ได้บอกคุณพ่อว่า ไปหาหมอนะ เดี๋ยวกลับมาเจอกันนะ เดี๋ยวไปรับที่โรงพยาบาลนะคะ พ่อก็โอเค ซึ่งตนเองก็คอยโทรศัพท์อัพเดทกับผู้ช่วยเป็นระยะ ว่าถึงโรงพยาบาลหรือยัง? ได้ห้องพักหรือยัง ?

แต่ปรากฏว่าพอถึงโรงพยาบาล คุณพ่อก็เริ่มมีอาการของเสมหะที่เหนียวข้นมาก ทำให้หายไม่ออก ก็ต้องมีการดูดเสมหะ จากนั้นประมาณช่วงตีสอง ผู้ช่วยก็โทรศัพท์มาบอกว่าความดันเริ่มตก คุณหมอก็พยายามใช้ยากระตุ้น แต่ด้วยสภาพร่างกายของคุณพ่อที่บอบบางมาก ทำให้ยากระตุ้นไม่ขึ้น  ผู้ช่วยก็บอกว่าให้กลับกรุงเทพฯ ตอนเช้าเลยได้มั้ย ‘อี๊ฟ’ ก็บอกว่าได้และได้โทรนัดเรือให้มารับตั้งแต่ 6 โมงเช้า

แต่ปรากฏว่าช่วงตี 4 ผู้ช่วยโทรมาอีกรอบ บอกว่าไม่นานแล้ว อยากให้คุยกับคุณพ่อทางโทรศัพท์เลย อี๊ฟยอมรับว่าตอนนั้นงงมาก ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่ก็ได้บอกคุณพ่อไปว่า “ถ้าพ่อเหนื่อย ก็ขอให้พักเลย ไม่เป็นไร” ขณะที่คุณแม่ก็บอกกับพ่อว่า “พ่อไม่ต้องห่วงนะ พวกเรารักพ่อมากที่สุด” และหลังจากนั้นคุณพ่อก็ค่อยๆ หลับไป  

อี๊ฟยอมรับว่าเสียใจที่ได้ไม่ได้อยู่คุณพ่อในวันสุดท้าย แต่ก็เชื่อว่าคุณพ่อเข้าใจ เพราะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอยากให้เกิด ตอนแรกรู้สึกหนักอึ้ง แต่คุณแม่เป็นที่เข้มแข็งและเข้าใจมากที่สุด แม่พูดกับอี๊ฟว่า “พ่อมีชีวิตที่ดีมากๆ แล้ว สิ่งเดียวที่เราทำให้เขาได้ก็คือ ทำให้เขาหมดความกังวลใจ หมดห่วง เขาจะหลับแล้ว ก็ไม่ควรให้เขาต้องรู้สึกว่าเขาต้องมาโอ๋ใคร เขาคงจะรู้ว่าเราอยู่ได้ เราจะไปต่อกันได้ เราจะสานต่อชีวิตที่เขาให้ไว้เป็นอย่างดี”

ทันทีที่มาถึงเห็นหน้าคุณพ่อที่นอนหลับอยู่ คุณพ่อดูผ่องใส ดูไม่เหมือนคนป่วย ดูสงบ ไม่ได้ดูเหมือนช่วงที่เขาลำบาก ก็เลยทำให้รู้สึกว่าคุณพ่อคงไปที่ที่ดีมากๆ และเขาก็คงเหนื่อยมากแล้วจริงๆ คนดูแลก็บอกว่าก่อนที่พ่อจะไป พ่อเห็นแสงสีเขียว เราก็เชื่อว่าแสงนั้น คงเป็นแสงที่นำพาเขาไปในที่ที่ดี

โดยอี๊ฟยังได้เผยถึงคำสอนของคุณพ่อที่ตนเองได้นำมาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตด้วย ซึ่งคุณพ่อสอนไว้เยอะมาก แต่มีประโยคนึงที่พ่อเขียนไว้ให้คือ “คนแพ้ต้องไม่ท้อ คนท้อก็ไม่ใช่คนแพ้” และยังสอนเรื่องการใช้ชีวิต เพราะคุณพ่อเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ถ่อมตัว ไม่เคยคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ มีอภิสิทธิ์ชนอะไร นั่นคือสิ่งที่ทำให้คนรักเขา อี๊ฟได้เรียนรู้แบบอย่างมาจากคุณพ่อด้วยเช่นกัน




ขณะที่วินัย พันธุรักษ์ และพิชัย ทองเนียม สมาชิก 2 คนที่เหลืออยู่ของวงดิอิมพอสซิเบิ้ล ก็เผยว่า เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ทั้งอาต้อย , อาวินัย และอาพิชัย ได้ร่วมกันบันทึกเสียงทำเพลงใหม่ เพราะวางแผนกันไว้กลางปีนี้อยากจะมีคอนเสิร์ตเล็กๆ เพราะอาต้อย คิดถึงแฟนเพลง ซึ่งก็บันทึกเสียงกันไว้เรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายอาต้อยก็มาจากไปเสียก่อน และตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดว่าโปรเจ็กต์นี้จะไปต่อหรือไม่ ยอมรับว่าหลังจากขาดอาต้อยไปอีกคนก็รู้สึกเหงามาก




ส่วนจิ๊ก เนาวรัตน์ นางเอกคู่ขวัญของอาต้อย เศรษฐา ที่ได้ร่วมเล่นหนัง เล่นละครกันมากว่า 10 เรื่อง ก็เป็นคนทำหน้าที่แต่งหน้า แต่งตัวให้กับอาต้อยเป็นครั้งสุดท้าย โดยสีหน้าของอาต้อยดูมีความสุขมาก ไม่ได้เจ็บปวด ไม่ได้ทรมานแล้ว และตอนแต่งตัวเสร็จ ก็สังเกตเห็นมือทั้งสองข้างของอาต้อยทำมือเหมือนท่ามินิฮาร์ท ซึ่งคนที่อยู่ด้วยกันตรงนั้นเห็นเหมือนกันหมดทุกคน ก็รู้สึกได้ว่าแม้อาต้อยจะไปสวรรค์แล้ว แต่ก็ยังมีอารมณ์ขันให้กับทุกคน เหมือนกับตอนที่ยังมีชีวิตและคอยสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนเสมอมา

จากนั้นในเวลา 17.00 น. เจ้าพนักงานพิธีอัญเชิญน้ำหลวงพระราชทาน , ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหีบลายก้านแย่ง เป็นเครื่องเกียรติยศบรรจุศพ โดยโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโท ภักดี แสงชูโต อัญเชิญพวงมาลาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี , สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพ ‘นายเศรษฐา ศิระฉายา’

ซึ่งภายในงานเมื่อวานนี้ก็มีบุคคลในแวดวงการเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงคนในวงการบันเทิงมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก อาทิ ‘สมบัติ เมทะนี, ตู่ นพพล , พิสมัย วิไลศักดิ์ , จิ๋ม มยุรฉัตร , โย ทัศน์วรรณ , ดวงใจ หทัยกาญจน์, กอบสุข จารุจินดา,  ตุ๊ก ดวงตา , แม่ก้อย ทาริกา , ตู่ นันทิดา,  น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รวมถึงเหล่าศิลปิน AF

โดยก่อนเริ่มพิธีสวดพระอภิธรรม ได้มีการแสดงเพลงจากเหล่าศิลปินทั้งวินัย - พิชัย จากวงดิอิมพอสซิเบิ้ล , ชมพู ฟรุตตี้ , จิ๊บ วสุ รวมถึงฮาร์ท สุทธิพงศ์ มาร่วมกันขับกล่อมบทเพลง เพื่อแสดงความรำลึกถึงอาต้อยด้วย

จากนั้นในเวลา 19.00 น.  ก็มีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก โดยครอบศิระฉายาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้เดินทางไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรม พร้อมให้กำลังใจอาเปี๊ยก อรัญญา และอี๊ฟ พุทธธิดา ด้วยเช่นกัน

สำหรับกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ อาต้อย เศรษฐา จะมีพิธีสวดเป็นเวลา 7 คืนไปจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะเป็นเจ้าภาพในวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ จากนั้นทางครอบครัวจะเก็บร่างไว้บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน เพื่อรอกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป

ทางครอบครัวขอความกรุณางดพวงหรีดดอกไม้ และขอเชิญร่วมบริจาคทำบุญสมทบทุนมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ในพระอุปถัมป์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตามความตั้งใจของอาต้อยและครอบครัว

คุณอาจสนใจ

Related News