ชาวลพบุรีน้ำตาตกในเดือดร้อนหนัก น้ำท่วมมิดบ้าน บางส่วนต้องหนีไปอยู่ใต้สะพาน

สังคม

ชาวลพบุรีน้ำตาตกในเดือดร้อนหนัก น้ำท่วมมิดบ้าน บางส่วนต้องหนีไปอยู่ใต้สะพาน

โดย nicharee_m

2 ต.ค. 2564

90 views

สถานการณ์การระบายน้ำออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี สูงกว่า 1,200 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที หรือชั่วโมงละ 4 ล้านลูกบาศ์กเมตรต่อชั่วโมง ติดต่อกันมาเป็นวันที่ 2 แล้วนั้น


ทำให้ชุมชนบ้านแก่งเสือเต้น อำเภอพัฒนานิคม ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ติดท้ายเขื่อนป่าสักได้ถูกน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ 2 หมู่บ้านคือหมู่ 1 และหมู่ 11 ระดับน้ำสูงอยู่ที่ 50 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร ทางอำเภอต้องอพยพชาวบ้านหนีน้ำขึ้นมาไว้ที่เทศบาลตำบลแก่งเสือเต้น โดยมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 200 ครอบครัว และระดับน้ำยังของเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านต้องมีการเฝ้าระวังทุกชั่วโมง


ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนแก่งเสือเต้น เปิดเผยว่า น้ำที่ท่วมอยู่ในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะหนักมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับที่ว่าเขื่อนป่าสักฯ จะระบายน้ำออกมาเพิ่มหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น แต่ชุมชนนี้ไม่ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 10 ปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ท่วมหนักมากคือในปี 2554 เมื่อครั้งอุทกภัยใหญ่ หากเทียบกันกับน้ำท่วมครั้งนี้ต้องบอกว่ายังไม่ถึงปี 2554 แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ต้องติดตามการระบายน้ำของเขื่อนอย่างต่อเนื่องในทุกวันว่าจะเพิ่มหรือไหม หาเพิ่มการระบายน้ำก็จะเพิ่มขึ้น


สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลพบุรียังคงอยู่ในขั้นวิกฤตหลังจากที่ถูกน้ำท่วมครบทั้ง 11 อำเภอแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล และอำเภอบ้านหมี่ และ อ.เมือง บางพื้นที่จมบาดาล ขณะที่ระดับน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก ยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง


เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ต.พุคา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เพื่อดูความเป็นอยู่ของชาวบ้านและสภาพบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมยามค่ำคืน พบว่าชาวบ้านยังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก น้ำยังท่วมขังโดยในพื้นที่ชุมชนท่วมสูง 1-2 เมตร ส่วนท้องทุ่งระดับน้ำสูง 3-4 เมตร ชาวบ้านบอกว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ไม่มีท่าทีจะลดจึงต้องปรับตัวให้อยู่กับน้ำ


จากการลงพื้นที่ช่วงหัวค่ำซึ่งค่อนข้างมืดแล้ว พบว่าชาวบ้านบางคนยังอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง เนื่องจากไม่มีการตัดกระแสไฟฟ้า ทำให้มีไฟส่องสว่าง บางคนมีเรือเป็นของตัวเอง ก็พายเข้าออกหมู่บ้านมาซื้ออาหารตุนไว้กินและออกมาทำงาน


ผู้สื่อข่าวได้เจอนางเกษรา สูงเนิน อายุ 47 ปี ชาวบ้านสระตาแวว หมู่ 2 ต.พุคา อ.บ้านหมี่ พายเรือพร้อมกับสามีและลูกสาว บอกว่า ครอบครัวของตนอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งน้ำไม่ท่วม กำลังจะไปบ้านลุงเขย โดยเรือที่พายอยู่รั่วช่วงกลางลำ ตนนำดินน้ำมันมาอุดรูรั่วไว้ แต่เอาไม่อยู่ จึงพายเรือไปวิดน้ำไป


ชาวบ้านรายนี้ บอกว่า ออกไปหาซื้ออาหาร ขนมจีน ตุนไว้กิน 2 วัน พร้อมทั้งยาฉีดยุง และไปเอาเสื้อผ้าจากบ้านอีกหลังมาไว้ใส่ เพื่ออยู่เป็นเพื่อนลุงเขย อายุ 82 ปี เพราะบ้านถูกน้ำท่วมอยู่ภายในบ้านคนเดียว เป็นห่วงลุงเขยเพราะเป็นความดัน พายเรือไม่ไหว ไม่มีใครทำอาหารให้กิน ขณะที่ อบต.ก็นำอาหารน้ำดื่มเข้ามาให้ กังวลว่าน้ำจะสูงขึ้นอีก


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของนางประดับ ทองดี อายุ 81 ปี และนายเบ้า ทองดี อายุ 88 ปี สองตายาย อาศัยอยู่ในบ้านด้วยกันสองคน โดยชั้นล่างของบ้านถูกน้ำท่วมทั้งหมด จึงขึ้นไปอยู่บนชั้นสองของบ้านนั่งตบยุงมองดูน้ำที่ท่วมขังบ้านของตัวเองนาน 7-8 วันแล้ว และนั่งมองดูเรือที่เพื่อนบ้านพายผ่านหน้าบ้านไปมา อยู่แต่บ้านไม่รู้จะออกไปไหน


โดยเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) คุณตา ต้องพายเรือพาคุณยายออกไปหาหมออนามัยเพื่อทำแผลที่แขนซ้ายหลังหกล้มท่ามกลางน้ำท่วมลึกมิดหัว ส่วนคุณยาย บอกว่า ว่ายน้ำไม่เป็นกล้าๆ กลัว ๆ นั่งเรือออกไป ตนเองชินกับน้ำท่วม เมื่อปี 2553 และ 2554 น้ำท่วมหนัก ปีที่แล้วน้ำก็ท่วมแต่ไม่หนักเท่าครั้ง สองตายายบอกไม่มีอะไรขอความช่วยเหลือ เพราะทุกวันนี้ อบต.ก็นำน้ำดื่มอาหารมาส่งให้กินทุกมื้อ


ชัยภูมิ - ร้านซ่อมเกิดถล่มหลังน้ำท่วมลด

เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 1 ตุลาคม 64 ที่ผ่านมาว่าได้เกิดฝ่าเพดานบ้านของนายอนุห์ภพ บางช้าง อายุ 51 ปีตำบลบ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ หลังจากพายุฝนกระหน่ำน้ำท่วม อ่วมตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอนุห์ภพ (เจ้าของร้านคำปิงรวมช่าง) เล่าว่า ทางร้านเปิดเป็นร้านซ่อมรถเพื่อการเกษตรฯทั้งรถอีแต๋น รถตุ๊กตุ๊กให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นมาประมาณ 24 ปี วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาน้ำไหลหลากจากอ่างลำคันฉู ไหลทะลักมาเร็วมากตั้งตัวไม่ทันระดับน้ำสูง 2-3 เมต เตรียมขนย้ายสิ่งของไม่ทัน


ขอนแก่น - น้ำจากชัยภูมิหนุนน้ำชีล้นตลิ่ง ท่วมอีกอำเภอเกือบ 2 เมตร

วานนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บ้านท่านางเลื่อน ม.6 ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น หลังจากที่น้ำชีเอ่อท่วมหมู่บ้านตั้งแต่เย็นวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านที่สามารถขนสิ่งของออกจากบ้านได้ทัน ก็จะนำมากองรวมกันไว้ เพื่อรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นำรถยนต์เข้าไปขนย้าย รวมถึงขนย้ายสัตว์เลี้ยง ที่มีทั้งวัว แมว สุนัข และไก่



รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/hJISdDZZh2s

คุณอาจสนใจ