น้ำท่วมอีสานเริ่มคลี่คลาย ปชช.หลายพื้นที่เริ่มทำความสะอาดแล้ว หลังน้ำโขงลดต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคอีสานพบว่า จังหวัดที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เริ่มเข้าสู่การทำความสะอาดบ้านเรือนแล้ว หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงต่อเนื่อง และ สส.ในแต่ละพื้นที่ ต่างนำถุงยังชีพไปมอบให้ผู้ประสบภัย แต่สำหรับพื้นที่บนเชิงเขา ที่ได้รับผลกระทบจากดีเปรสชัน ซูลิก ทำให้มีน้ำป่าหลากเป็นบางพื้นที่



อิทธิพลของดีเปรสชันซูลิก ที่ปกคลุมมาถึงจังหวัดชัยภูมิ ทำให้เกิดฝนตกหนัก ในเขตตำบลโป่งนก ตำบลนายาง-กลัก อำเภอเทพสถิต กระทั่งเกิดน้ำป่าพัดดินโคลนและซากไม้แห้งจากยอดเขาพังเหย



ลงสู่ลำน้ำในเขตตำบลนายาง-กลัก อำเภอเทพสถิต จากนี้จะไหลไปบ้านซับสายออ ตำบลท่ากูป อำเภอซับใหญ่ และลงสู่แม่น้ำชีในลำดับถัดไป



นายอนันต์ นาคนิยมผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ตามลำน้ำดังกล่าว ระมัดระวัง และติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้น เพราะฝนที่ยังตกต่อเนื่อง



ที่จังหวัดหนองคาย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อม สส.ในพื้นที่และข้าราชการ นำถุงยังชีพประมาณ 300 ชุด ให้ผู้ประสบภัย ในตำบลเวียงคุก อำเภอเมือง หนองคาย ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงเป็นปกติ แต่ยังมีความเสียหายที่ต้องเร่งฟื้นฟู



นอกจากนี้ยังมอบอีก 700 ชุด ให้ผู้ประสบภัยที่โรงเรียนเทศบาล 5 มีชัยวิทยาและวัดพุทธไสยาสน์



นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัตงบประมาณ 3 พันล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ และกำชับให้ลดขั้นตอนงานเอกสารของผู้ประสบภัย ให้ยึดถือเฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปโดยเร็ว ทั่วถึง



ขณะที่ผู้บริหารธนาคการ ธกส. ชี้แจงกับชาวหนองคายที่ไปรับถุงยังชีพว่า ธกส.จะออกมาตรการเลื่อนกำหนดหนี้สิน 1 ปี พักเงินต้น และมีโครงการสินเชื่อเร่งด่วน 6 เดือน วงเงิน 50,000 บาท ซ่อมแซมบ้าน 500,000 บาท



ส่วนธนาคารออมสิน จะมีสินเชื่อที่ไม่ต้องมีคนค้ำประกันอีก 10,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ เป็นเงินกู้ระยะสั้นเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมีเงินทุนหมุนเวียนนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ก่อน.



ที่จังหวัดนครพนม ระดับน้ำแม่น้ำโขงลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 11 เมตร 30 เซนติเมตร ลดลงวันละประมาณ 20 ถึง 30 เซนติเมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤติที่อยู่ 12 เมตร ซึ่งจะเป็นผลดีที่ทำให้ลำน้ำสาขาโดยเฉพาะแม่น้ำสงคราม ลดลงได้อีก



ขณะเดียวกันเทศบาลเมืองนครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ทำความสะอาดดินโคลนที่ไหลมากับน้ำโขง บริเวณร้านค้าชั้นใต้ดิน บริเวณลานพญานาคองค์พญาศรีสัตตนาคราช เพื่อปรับพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รองรับประชาชนนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในงานประเพณีไหลเรือไฟ ระหว่างวันที่ 8 ถึง 18 ตุลาคมนี้



สำหรับจังหวัดนครพนม มีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 1 แสนไร่ มากที่สุดในอำเภอศรีสงครามประมาณ 5 หมื่นไร่ รองมาคืออำเภอนาทม ท่าอุเทน นาหว้า และอำเภอบ้านแพง มีผู้เดือดร้อนประมาณ 21000 คน



วันนี้ นางสาวมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะนำถุงยังชีพไปมอบให้ผู้ประสบภัย โดยกระจายไปยังหลายพื้นที่ ที่ประสบภัยดังกล่าว