แม่ส่งลูกบำบัดยา ไม่รู้ลูกถูกทรมาน แผลเต็มตัว 'หมอปลา' บุกกองปราบ เอาผิดศูนย์วัดท่าพุ

สังคม

แม่ส่งลูกบำบัดยา ไม่รู้ลูกถูกทรมาน แผลเต็มตัว 'หมอปลา' บุกกองปราบ เอาผิดศูนย์วัดท่าพุ

โดย thichaphat_d

23 ก.ย. 2564

108 views

จากกรณีที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อ กรณีศูนย์บำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ภายในวัดท่าพุบำรุงราษฎร์ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี โดยร้องเรียนว่า สถานที่นี้ให้ผู้บำบัดทั้งติดยาเสพติดและจิตเวช จำนวน 254 คน อาศัยรวมกัน กินข้าววันละสองมื้อ บางวันก็ข้าวบูด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เหยื่อศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ แจ้งความฐานค้ามนุษย์ ชี้มีตำรวจเอี่ยว


การขับถ่ายมีเพียงห้องน้ำสองห้อง ไม่เพียงพอกับผู้บำบัด ต้องขับถ่ายใส่ถัง จนสิ่งปฏิกูลไหลเจิงนองและทุกคนกินนอนในห้องนี้ จนเป็นโรคผิวหนังติดต่อกัน เป็นแผลพุพอง ทั้งตัว และบางรายก็ถูกทำร้ายร่างกายทุบตี บาดเจ็บ แต่เวลาญาติมาเยี่ยมหรือโทรหา ไม่พบการกระทำดังกล่าว


ล่าสุด เมื่อวานนี้ก็มีการนำผู้บำบัดทั้งยาเสพติดและจิตเวช ย้ายมาอยู่ที่ค่ายเขาชนไก่ อาศัยที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราว โดย เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสารเสพติดและตรวจเชื้อโควิด ไม่พบทั้งเชื้อโควิดและสารเสพติด



ตลอดทั้งวันมีญาติและครอบครัวของผู้บำบัดมารับตัวกลับบ้าน จาก 254 คน เหลือ 26 คน ซึ่งไม่มีญาติมารับ และบางรายญาติไม่ประสงค์จะรับกลับ ทางกระทรวงยุติธรรม จึงร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมมนุษย์ หรือ พม.ทำประวัติทั้ง 26 คน และจะนำส่งไปดูแลที่บ้านคนไร้ญาติ และใครที่ต้องบำบัดรักษา ก็จะส่งไปตามสิทธิรักษาแต่ละคน


นอกจากนี้ พบว่า คุณแม่ของผู้บำบัดคนหนึ่ง เปิดใจกับทีมข่าวว่า ลูกชายที่บำบัดอยู่ในศูนย์นี้ไม่ยอมออกมา ไม่อยากกลับบ้านขออยู่ที่ศูนย์ ต่อซึ่งครอบครัวทุกข์ใจมาก เพราะลูกชายติดยาเสพติด และตระเวนบำบัดมาหลายที่แต่ไม่เคยหาย จนมาเจอที่วัดนี้เพราะ รพ.ด้านจิตเวชที่รักษาแนะนำมา



ตอนพาลูกมาเพื่อหวังจะให้หาย เพราะหากปล่อยออกไปก็ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก แต่ปรากฎว่าลูกชายอยู่ที่นี้เกือบสองปี ไม่มีอาการดีขึ้น มีแต่ทรงและตามร่างกายยังมีแผลพุพอง ตุ่มเต็มตัว ที่ผ่านมา คิดว่าลูกอยู่สุขสบาย เพราะโทรไปหาลูกจะบอกสบายดีครับ กินอิ่ม นอนหลับ เวลาไปหาก็กราบเท้าบอกรักแม่


แต่มารู้ทีหลังว่า เวลาที่คุยโทรศัพท์ จะมีการ์ดหรือคนคุม ให้เปิดลำโพงคุยอะไร ผู้คุมก็ได้ยินทุกประโยค เคยมีครั้งหนึ่งที่ลืมวางสาย ได้ยินเสียงฟาดลูกชาย ดังสนั่น และคนคุมก็สั่งให้หัวเราะ ห้ามร้องไห้ ตอนนั้นใจคอไม่ดี ถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้นๆ แต่ลูกบอกว่า ไม่ใช่ตนเองเป็นคนอื่นโดนลงโทษ



ตนจะขอเอาลูกกลับ พระที่ตัวดำๆคอยดูแลที่นี่ บอกว่า จะเอาก็มาเอาเลยแต่ให้จ่ายเงิน 10,000 บาทก่อน ตนก็งงทำไมต้องจ่าย และพอเป็นข่าวเห็นสภาพของลูก และที่กินนอน เหมือน นรกบนดิน อยากไปรับลูกกลับ แต่ลูกบอกว่าไม่กลับซึ่งตนเชื่อว่า ที่ลูกไม่กลับต้องมีเรื่องยาเสพติดหรือความเชื่ออื่นๆมาหลอกลูกตน


อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ กลุ่มคนเหล่านี้ เขาตกเป็นทาสจากเสพติด อยากหลุดพ้น และครอบครัวกำลังช่วยแต่บางทีก็ไม่มีกำลังเพียงพอจะดูแล และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่ทำร้ายผู้บำบัดทั้งหมดทั้งคนและพระ จิตใจกลุ่มคนเหล่านี้โหดเหี้ยมเกินคน


ด้านหนึ่งในผู้บำบัด ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ข้อมูลที่สื่อนำเสนอนั้นไม่เป็นความจริงที่นี่ดูแลดี หากมีการทรมานจริงจำนวนคนกว่า 200 คน หากรุมประชาทัณฑ์หรือขัดขืนก็สามารถทำได้ ทำไมไม่มีใครกล้าทำอะไร


ที่ต้องมีระเบียบเข้มงวด เพราะแต่ละคนมาบำบัดยาเสพติด และจิตเวช บางคนก็หาทางหนี เคยมีคนหนีและไปขโมยรถชาวบ้าน หรือไปเหยียบกับดักสัตว์ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านจึงต้องมีคนดูแล ส่วนการกินนอนในเรือนนั้น ตนก็เคยนอนมาก่อน ก็อยู่ได้ไม่ได้เบียดกัน ส่วนแผลพุพองที่เป็นโรคผิวหนัง เพราะไม่รักษาความสะอาด และเกาจนติดเชื้ออยู่ที่การรักษาความสะอาด



ส่วนการกินอาหารที่บอกว่ากินข้าวบูด เพราะที่นี่ให้กินอาหารสองมื้อ เช้ากับกลางวันเหมือนมาปฏิบัติกรรมฐาน บางคนก็เก็บข้าวเที่ยงไว้กินเย็นข้าวก็บูด ไม่ใช่ทางศูนย์ให้กินข้าวบูด ไม่ใช่ความจริง


ส่วนการลงโทษทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ทารุณกรรม เป็นการลงโทษ เพราะฝ่าฝืนคำสั่ง เช่นสูบบุหรี่ ในเวลาห้าม หรือทำผิดกฎ ตนในฐานะที่อยู่ มาก่อนก็อยากขอให้สังคมฟังความสองฝ่าย เพราะคนที่มาอยู่ที่นี่คือคนมารักษา บางคนครอบครัวก็ไม่เอา บางคนก็ก่อเหตุหลายครั้ง ออกไปแล้วก็กลับมาอีก หากไม่เข้มงวดจะอยู่ไม่ได้


ส่วนห้องน้ำ สิ่งปฏิกูล อันนี้ยอมรับว่าไม่เพียงพอ เพราะแค่ห้องน้ำ 2 ห้องกับคนกว่า 200 คน ไม่พออยู่แล้ว แต่จะให้ออกมาขับถ่ายข้างนอกก็เกรงจะหลบหนี หรือสร้างความปั่นป่วน


ตอนนี้ศูนย์ก็ถูกปิดแล้ว แต่ตนยังอยู่ช่วยงานเพราะที่วัดมีบุญคุณ ช่วยให้ตนหลุดจากวงจรยาเสพติดและยังสอนอาชีพให้ หากใครตั้งใจไม่ทำฝืนกฎก็อยู่ได้



ส่วนที่กองบังคับการกองปราบปราม นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และนายไพศาล เรืองฤทธิ์ นำผู้เสียหายจากศูนย์บำบัดวัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 10 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์บำบัดฯ ในข้อหาค้ามนุษย์


หลังจากก่อนหน้านี้มีการเข้าช่วยเหลือผู้ที่เข้ารับการบำบัดประมาณ 216 คน ซึ่งหมอปลาได้รับการช่วยเหลือเมื่อวันที 20 กันยายนที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตามหลังพนักงานสอบสวนรับแจ้งความเอาไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามคำร้องทุกข์ ขณะเดียวกันทางทนายความ และหมอปลาขอให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำพาผู้เสียหายมาที่ศูนย์บำบัดแห่งนี้


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7dnDlfVQKtE


คุณอาจสนใจ

Related News