แนวโน้ม 1 ต.ค.นี้ เข้าห้าง-กินในร้าน-ตัดผม ต้องโชว์วัคซีนครบโดส - ผล ATK

สังคม

แนวโน้ม 1 ต.ค.นี้ เข้าห้าง-กินในร้าน-ตัดผม ต้องโชว์วัคซีนครบโดส - ผล ATK

โดย thichaphat_d

6 ก.ย. 2564

805 views

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 ก.ย.64 ระบุว่า จากการปรับมาตรการให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เปิดให้บริการได้ แต่เนื่องจากจัดเป็นพื้นที่ที่คนรวมตัวกันค่อนข้างสูง จึงขอความร่วมมือศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ที่เปิดดำเนินการต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงพร้อมปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด


แต่สำหรับมาตรการที่จะบังคับใช้ในอนาคต ซึ่งจะพิจารณาตามสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป คือการใช้มาตรการ “โควิด ฟรี เซตติ้ง” (COVID Free Setting) ประกอบด้วยความปลอดภัย 3 ด้าน คือ




1.ด้านสิ่งแวดล้อมปลอดภัย (COVID Free Environment) อาทิ การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม ทุก 1-2 ชั่วโมง เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวจับบันได ราวจับรถเข็น ที่เปิดประตู หมั่นทำความสะอาดสินค้า ทำความสะอาดระบบปรับอากาศทุก 3 เดือน ใช้ระบบกรองอากาศ HEPA หรือติดตั้งอุปกรณ์ กรองอากาศเฉพาะที่ เน้นบริเวณที่มีคนจํานวนมากและอากาศไม่ไหลเวียน เช่น ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น อีกทั้งเข้มงวดเรื่องมาตรการห้ามการรวมตัวกันจุดใดจุดหนึ่งด้วย


2.ด้านพนักงานปลอดภัย (COVID Free Personnel) มีภูมิคุ้มกัน โดยพนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส หรือเคยมีประวัติการติดเชื้อโควิดมาก่อนอยู่ในช่วง 1-3 เดือน และให้มีการคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยระบบไทยเซฟไทย รวมถึงจัดหา ATK ให้พนักงาน เพื่อทําการตรวจทุกๆ 7 วัน กำชับให้งดรวมกลุ่มขณะปฏิบัติงาน ระหว่างพัก และงดกินอาหารร่วมกัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention)


3.ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการปลอดภัย (COVID Free Customer) ให้คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยแพลตฟอร์ม “ไทยเซฟไทย” หรือแอพพลิเคชั่นอื่นที่ทางราชการกำหนด หากจะใช้บริการในกิจการเสี่ยง ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ตัดผม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส หรือประวัติการติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน หรือตรวจ ATK ผลเป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน และผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการหรือข้อกำหนดของจังหวัดด้วย


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/cI0MnmjyMeU


คุณอาจสนใจ

Related News