ความคืบหน้าการจับกุม พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวก 7 คนตกเป็นผู้ต้องหา คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'กรรชัย' คุย 'เมย์ พิชญ์นาฎ' ปมเลิกรา 'ผกก.โจ้' เผยถูกจับตา จ้างคนใกล้ชิดรายงาน จนรู้สึกไม่ปลอดภัย

โดยศาลจังหวัดนครสวรรค์ ออกหมายจับ ดังนี้

1.พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ (หนี)

2.ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา รองสว.(ป.)สภ.เมืองนครสวรรค์ รองหัวหน้าชุด (หนี)

3.ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่(ป.)สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด (มอบตัวตอนเย็น)

4.พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ (จับแล้ว)

5.ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค รอง สวป.สภ.เมืองนครสวรรค์ หัวหน้าชุด (จับแล้ว)

6.ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผบ.หมู่(ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด (จับแล้ว)

7.ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว สภ.ตาคลี นครสวรรค์ (จับแล้ว)

ช่วงเช้าวานนี้ (25 ส.ค.) พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาดูสภาพภายในห้องของชุดปราบปรามยาเสพติดที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ซึ่งจากการสังเกตภายในห้องนั้นพบว่ามีการรื้อสายแลนของกล้องวงจรปิดบริเวณมุมห้องที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทิ้งไปแล้ว แต่บริเวณที่ทำการใช้ถุงดำคลุมหัวของผู้ตายนั้นยังมีการคงสภาพเดิมไว้อยู่ทั้งป้ายที่ติด ตรงประตูและเสื้อของตำรวจที่แขวนไว้ข้างฝา

พล.ต.อ.วิสนุ ได้เดินดูภายในห้อง เมื่อมาถึงเดินมาถึงบริเวณที่นำผู้ต้องหามา ก่อเหตุ คลุมถุง พล.ต.อ.วิสนุ ได้ชี้ตรงจุดที่ปรากฏตามคลิปให้กับทีมงานจเร ดูพร้อมทั้งส่ายหน้า และพูดว่า"ตรงนี้หรือ แย่จัง ไม่ไหวจริงๆ

พล.ต.อ วิสนุ บอกว่า พฤติกรรมของผู้กำกับโจ้ที่ได้ทำลงไปนั้นถือเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมทารุณและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับฝากถึงผู้กำกับโจ้หากดูข่าวแล้ว

"ให้เดินทางเข้ามามอบตัวซะ เพราะตัวเองเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่ดันไปก่อเหตุแบบนี้ซะเอง" ยืนยันว่าซึ่งหากไม่มามอบตัวนั้นยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะลากตัวมาดำเนินคดีให้ได้

ต่อมา พนักงานสอบสวนก็ควบคุมตัว พ.ต.ต.รวีโรจน์ / ร.ต.อ.ทรงยศ / ด.ต.ศุภากร / ส.ต.ต.ปวีกรณ์ มาสอบปากคำ โดยทั้งหมด มาในสภาพ สวมกุญแจมือ ใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าเห็นแค่ลูกตา มีตำรวจประกบ เดินออกจากห้องสืบสวน ไปที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ช่วงนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามตำรวจที่ก่อเหตุ ว่าก่อเหตุจริงหรือไม่ เจ้าตัวได้แต่พยักหน้า โดยทั้งสี่คนนั้นทุกควบคุมตัวมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องหาเป็นครั้งแรก

จากนั้น พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ แถลง เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า คำให้การของผู้ต้องหา 4 คน ที่คุมตัวได้แล้ว ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับว่า อยู่ในคลิปเหตุการณ์ซ้อมทรมานจริง และเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์

ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปกำกับดูแล

ด้าน พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ระบุว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอโทษและขออภัยประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่เลวร้าย ขณะเดียวกัน ขอขอบคุณผู้ที่นำคลิปออกมาเปิดเผย รวมทั้งสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวนี้ สะท้อนให้เห็นว่าบ้านของเรามีสิ่งสกปรก ต้องทำความสะอาด

ซึ่งยืนยันว่าตำรวจภูธรภาค 6 จะดำเนินคดีตามกฎหมายและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ผู้ต้องหารับโทษสูงสุดประหารชีวิต ขณะที่จากการตรวจสอบเบาะแสของผู้กำกับโจ้ กับพวกที่ยังหลบหนี ทางพล.ต.ต.เอกลักษณ์ บอกว่า จากแนวทางการสืบสวน เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย และคาดว่าจะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีในเร็วๆนี้

สำหรับคดีนี้ พล.ต.ต.เอกลักษณ์ บอกว่า ประเด็นสำคัญคดีการก่อเหตุฆ่าคนตาย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มองว่า “กลุ่มผู้ต้องหาเขาคือโจรที่เอาเครื่องแบบมาใส่ แล้วฆ่าพี่น้องประชาชน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง”

ส่วนประเด็นรีดเงินสินบนในคดียาเสพติดจากผู้ต้องหาจนกระทั่งเสียชีวิต ก็จะมีการตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพฤติกรรมที่ผ่านมาของกลุ่มผู้ต้องหาด้วย

ซึ่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้เปิดศูนย์ร้องเรียน เพื่อให้ประชาชนที่เคยตกเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของผู้กำกับโจ้กับพวก รวมทั้งตำรวจคนอื่น เข้าให้ข้อมูลเพื่อดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลังและคอยให้การช่วยเหลือ รวมทั้งผู้กำกับโจ้ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกสาวของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งอาจมีการช่วยเหลือทางคดี นั้น พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาร 6 ได้มอบหมายให้ ชี้แจงต่อสื่อมวลชน

ยืนยันว่าผู้กำกับโจ้ไม่ใช่คนในครอบครัวของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เป็นเพียงบุคคลที่เข้ามาสนิทสนมกับลูกสาวของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในลักษณะเข้ามาจีบ และอยู่ระหว่างคบหาดูใจ ซึ่งยังไม่ได้แต่งงาน หรือ หมั้นหมายกัน โดยเชื่อว่า หลังจากเกิดเหตุ ลูกสาวของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ก็คงยุติความสัมพันธ์

ส่วนอีกประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าความสนิทสนมกันกับลูกสาวผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ผู้กำกับโจ้ได้รับเข้ารับตำแหน่งผู้กำกับการสภ.เมืองนครสวรรค์ พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ไม่ได้ช่วยเหลือหรือให้ความสำคัญกับผู้กำกับโจ้ อีกทั้งการโยกย้ายข้าราชการตำรวจทางผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับให้ดำเนินการตามขั้นตอนและเป็นธรรม

พร้อมยืนยันว่า ทางตำรวจจะคุ้มครองผู้ที่นำคลิปหลักฐานออกมาเปิดเผยเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี และเป็นหลักฐานในชั้นศาล ส่วนการเรียกรับเงินจากผู้ต้องหาจนนำไปสู่การซ้อมทรมานจนเสียชีวิต

ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งสอบปากคำภรรยาผู้เสียชีวิตใหม่อีกครั้ง เพราะให้การไม่ตรงกัน เนื่องจากครั้งแรกครอบครัวผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงทำให้ไม่มีการตรวจสอบในส่วนนี้

รวมทั้งจะมีการสอบปากคำพ่อของผู้เสียชีวิต รู้เห็นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหรือไม่ หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินคดี

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/qrzBVNnuOos