อาชญากรรม

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย "อดีตผู้กำกับโจ้" เชื่อเดี๋ยวความจริงจะปรากฏ

โดย nutda_t

13 มี.ค. 2568

144 views

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ และการร้องเรียนเรื่องถูกทำร้ายร่างกายจากผู้คุม ว่าได้เริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 มีนาคมแล้ว หลังตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีกรรมการ 2 ชุด ตรวจสอบเรื่องที่ครอบครัวร้องเรียน ที่กรมได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 3 มีนาคม และการตรวจสอบการเสียชีวิต ซึ่งมีหน่วยงานภายนอก 3 หน่วย คือสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจสอบด้วย

ส่วนไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดว่าอดีตผู้กำกับโจ้ ทำอะไรบ้าง แต่เท่าที่ทราบมา พบว่า อดีตผู้กำกับโจ้ อยู่แดน 5 ในห้องควบคุมคนเดียว เช้ามาก็ทำกิจกรรมปกติ และช่วงบ่ายมีการพบญาติเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร แล้วกลับเข้าเรือนนอน

ส่วนกรณีที่มีประเด็นว่า การพูดคุยกับญาติ อดีตผู้กำกับโจ้ มีท่าทีโวยวายหรือไม่นั้น นายสหการณ์ ระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ เพราะได้รับข้อมูลว่ามีสถานการณ์บางอย่าง เช่น แฟนของอดีตผู้กำกับโจ้ มีลักษณะร้องไห้ แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจริงเท็จอย่างไร เพราะทางราชทัณฑ์มีไฟล์บันทึกเสียงสนทนาที่เป็นความลับ ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ ให้เป็นเรื่องของกระบวนการสอบสวนต่อไป

ส่วนการสอบผู้คุมคู่กรณีของอดีตผู้กำกับโจ้ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ แต่ตนยังไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะจะเหมือนเป็นการกล่าวร้ายอดีตผู้กำกับโจ้ แต่ยืนยันได้ว่า ทุกอย่างมีข้อมูลหมด

และยืนยันว่า “ไม่มีการทำร้ายร่างกาย” เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้แน่นอน ซึ่งผลตรวจจากแพทย์นั้น ห้วงเวลาที่อดีตผู้กำกับโจ้ ไปตรวจ เป็นคนละช่วงกับที่อยู่ในแดนที่ผู้คุมสิทธิพรอยู่ เชื่อว่าเดี๋ยวความจริงจะปรากฏ

ส่วนมีการใช้คำพูดอะไรที่ทำให้เกิดความกดดันหรือไม่นั้น นายสหการณ์ ระบุว่า ในแดน 7 เป็นการคุมขังนักโทษที่มีโทษจำคุก 50 ปีขึ้นไป และในเรือนจำกลางคลองเปรมก็เป็นนักโทษที่มีอัตราโทษสูง ดังนั้น กติกา ระเบียบต้องเข้มงวด ผู้ต้องขังไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ เพราะที่นี่ต้องสร้างคน ฝึกวินัย และเราก็ทราบว่า อดีตผู้กำกับโจ้ เข้ามาจากเหตุอะไร จึงต้องมีกติกาที่เข้มงวด เพราะคนรอบๆ อาจจะหวั่นกลัว และยืนยันว่า กติกาดังกล่าว ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ “ถ้าพวกเราได้ไปอยู่สักพักจะเห็นว่าอะไรเป็นอะไร” และจากข้อมูลการสอบสวน ได้รับรายงานเรื่องความกระด้างกระเดื่องของอดีตผู้กำกับโจ้ด้วย

ส่วนเอกสารการย้ายอดีตผู้กำกับโจ้ จากแดน 7 มาแดน 5 ยืนยันว่ามีการลงลายมือชื่ออดีตผู้กำกับโจ้ ชัดเจน มีหลักฐานทั้งหมด แต่นำมาเปิดเผยไม่ได้ ส่วนการสอบเรื่องการยุติที่อดีตผู้กำกับโจ้ ลงชื่อให้ยุติการสอบสวนตามหนังสือร้องเรียนนั้น ยืนยันว่า มีการตรวจสอบของราชทัณฑ์ทั้งหมดเช่นกัน และมีเอกสารทั้งหมด

กรณีการย้ายผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมนั้น ก็เพื่อให้เห็นว่าเป็นการทำงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้สังคมเห็นว่าไม่ได้มีการปกปิด แต่เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบเกิดความเชื่อมั่น ไม่ได้ปกปิด ไม่ได้สร้างหลักฐานเท็จ

นายสหการณ์ ยังได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ให้ความเป็นส่วนตัวกับครอบครัวของผู้คุมคู่กรณีอดีตผู้กำกับโจ้ด้วย อย่าละเมิดสิทธิครอบครัว โดยการไปที่บ้านพัก เพราะเขาอยู่ไม่เป็นสุข ครอบครัวต้องย้ายที่อยู่และลูกเขาป่วยเป็นซึมเศร้า อยากจะให้แยกกันระหว่างครอบครัวกับที่ทำงาน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันด้วยว่า ห้องขังที่พานักข่าวไปดูในแดน 5 ห้องหมายเลข 50 ที่อดีตผู้กำกับโจ้อยู่ ไม่ใช่ห้องขังวีไอพีตามที่เป็นประเด็นดรามาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่เป็นห้องปกติอยู่ได้สูงสุด 5 คน ซึ่งราชทัณฑ์ก็พยายามยืดหยุ่น ถ้าผิดวินัยก็มาแยกขัง แต่อดีตผู้กำกับโจ้ ยังไม่ได้มีการสอบสวน แค่แยกแดนออกมาจากแดน 7 พอมาอยู่แดน 5 แต่เขามีความกังวลหลายเรื่องในเรือนจำ และอยากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง เราก็อนุญาตให้เขาอยู่คนเดียว

สำหรับประเด็นที่มีการมองว่า เหตุใดกรมราชทัณฑ์จึงมีการเคลื่อนย้ายศพเองได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพจะเข้าไป ขอชี้แจงว่า ตามสัญชาตญาณ เมื่อเราเห็นผู้ต้องขังมีลักษณะคล้ายกับกำลังทำร้ายตัวเอง ไม่รู้ว่าเสียชีวิตหรือยัง ผู้คุมถูกฝึกมาว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือทันทีจนถึงที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News