พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนไฟเซอร์จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,503,450 โดส และวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 415,040 โดส จากสหราชอาณาจักร

สำหรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและประธานคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้วัคซีน โควิด-19 ไฟเซอร์ ระบุว่า รอบนี้จะจัดสรรให้ครอบคลุมบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและครอบคลุมทั้งผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโควิดโดยตรง และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงติดเชื้อทุกคน ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และสัปเหร่อ จะได้ฉีดไฟเซอร์แน่นอน

ส่วนกลุ่มอื่นๆ หากรายชื่อตกหล่นให้แจ้งไปยังสาธารณสุขจังหวัด เพื่อส่งรายชื่อมากรมควบคุมโรคเพิ่มเติมได้ ขณะที่กทม. แจ้งผ่านสำนักอนามัย กทม.

การจัดสรรให้ 4 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก 7 แสนโดส ฉีดเป็นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทั่วประเทศ

กลุ่ม 2 ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ที่อยู่ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด 645,000 โดส

กลุ่ม 3 ชาวต่างชาติ ที่เป็นผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงคนไทยที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา 150,000 โดส

กลุ่ม 4 เพื่อศึกษาวิจัย 5,000 โดส

กลุ่ม 5 สำหรับควบคุมการระบาดจากสายพันธุ์เบต้า 3,450 โดส

สำหรับเกณฑ์จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล่าสุด คือ

1.กลุ่มบุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม ก็จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์กระตุ้นหนึ่งเข็ม เป็นเข็มที่ 3

2.กลุ่มบุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดใดมาแล้ว 1 เข็ม จะได้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่าง ระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่หนึ่งเป็นหลัก

3.บุคลากรที่ไม่เคยได้รับวัคซีนใดใดมาก่อน ให้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์

4.บุคลากรที่ไม่เคยติดเชื้อโควิดและไม่เคยได้รับวัคซีนพิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน นอกจากนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เคยได้รับวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกและแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 หรือสูตรสลับไขว้, วัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม, วัคซีนซิโนแวค 2 เข็มและได้รับเข็มกระตุ้นด้วยแอสตราเซเนกา 1 เข็ม คณะอนุกรรมการฯ ยังไม่แนะนำให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น เนื่องจากการฉีดทั้ง 3 แบบ ยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ

โดยให้ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้ เมื่อมีข้อมูลวิชาการสนับสนุน และมีวัคซีนที่เข้ามาเพิ่มขึ้น คณะกรรมการฯ จะพิจารณาฉีดให้ต่อไป เพื่อให้บุคลากรด่านหน้ามีภูมิคุ้มกันเพียงพอ ปฏิบัติหน้าที่อย่างมั่นใจ ให้ประชาชนปลอดภัย ระบบดูแลรักษาผู้ป่วยไม่หย่อนลง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/XLjIhOJC2ZA