'หมอสุระ' แจงเกณฑ์ฉีด 'ไฟเซอร์' บุคลากรฯด่านหน้า

สังคม

'หมอสุระ' แจงเกณฑ์ฉีด 'ไฟเซอร์' บุคลากรฯด่านหน้า

โดย passamon_a

1 ส.ค. 2564

1.6K views

วันที่ 31 ก.ค.64 นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ เปิดเผยถึงการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐฯ 1.5 ล้านโดส ว่า


จากฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมีการจัดสรรให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 จำนวน 700,000 โดส กรณีที่มีบุคลากรทางการแพทย์ได้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นเข็มที่ 3 ไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น ตัวเลขจะอยู่ที่กรมควบคุมโรค ที่ได้มีการทำแบบสำรวจไปที่โรงพยาบาลแต่ละแห่ง ซึ่งผลสรุปออกมายังไม่ทันในการประชุมพิจารณาจัดสรร ดังนั้นที่ประชุมจึงได้อนุมัติในหลักการให้เข็ม 3 บุคลากรด่านหน้าไปจำนวน รวม 7 แสนโดส


เมื่อได้ยอดเข้ามาชัดเจนแล้ว ส่วนต่างที่เหลือจากกรณีที่บุคลากรฉีดแอสตราเซเนกา เป็นเข็มที่ 3 ไปแล้วจะจัดสรรให้กับกลุ่มใดต่อไปนั้น จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคโควิด-19 ที่มี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ก.ค. ที่ประชุมเห็นว่ายังมีกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการดูแลผู้ป่วยโควิด เช่น บุคลากรทางการแพทย์ที่ถึงแม้ไม่ได้อยู่ด่านหน้าโดยตรงแต่ก็ยังมีความเสี่ยง ก็จะมีการพิจารณาตรงนี้เพิ่มเติม


ทั้งนี้ เราเสนอ ศบค.ไปว่าเข็ม 3 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ศบค.ก็รับทราบแบบนั้น ก็ต้องจัดตามแบบนี้ก่อน ส่วนรอบถัดไปก็ต้องมีการผ่อนคลาย เพราะว่าคนของเราที่มีความเสี่ยงอีกเยอะ


การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส เป็นไปตามหลักเกณฑ์อยู่แล้ว ส่วนต่างที่เหลือจากกรณีที่บุคลากรฉีดบูสเตอร์ด้วยแอสตราเซเนกา แล้วจะต้องมีการพิจารณาว่าจะเกลี่ยไปลงตรงจุดไหน กลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ในล็อตนี้ยังขาดอยู่ก็จะเกลี่ยไปให้ เช่น กลุ่มนักเรียนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้รวบรวมมา ถ้ามีตัวเลขเกินกว่า 1.5 แสนโดส ที่เราจัดสรรให้ก็เกลี่ยมาให้ตรงจุดนี้เพิ่ม


หรือถ้าในยอด 1.5 แสนโดส ที่จัดให้กับทาง กต.เหลือก็อาจจะนำมารวมเป็นกองกลาง แล้วกระจายไปยัง 13 จังหวัดเป้าหมายที่กำหนด เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ยังมีตัวเลขของกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ ที่เราต้องเข้าไปฉีดเพื่อลดอัตราการป่วยเสียชีวิต


เมื่อถามว่าขณะนี้มีการออกมาระบุว่ามีบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะรอวัคซีนบางตัวอยู่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็ม 1 ในรอบนี้ด้วยหรือไม่ นพ.สุระ กล่าวว่า วัคซีน 1.5 ล้านโดส หากดูกลุ่มเป้าหมายหลักที่เราจัดไว้ เหลือจากกลุ่มใดก็เกลี่ยภายในกลุ่ม แต่ถ้าไม่พอจริง ๆ ก็ต้องรอรอบถัดไป


ทั้งนี้ จริง ๆ เรามีวัคซีนแอสตราเซเนกาให้อยู่แล้ว ประสิทธิภาพก็เหมือน ๆ กัน อย่างไรก็ตาม หากเป็นบุคลากรด่านหน้าจริง ๆ และมีความจำเป็นต้องได้ไฟเซอร์ อาจจะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป เช่น บุคลากรบางคนแพ้วัคซีนที่เรามีอยู่ทั้งหมด เขาไม่สามารถฉีดวัคซีนที่มีองค์ประกอบบางอย่างในวัคซีนที่เราฉีดอยู่ จึงจำเป็นต้องรอวัคซีนตัวอื่น ๆ เมื่อมีเข้ามาก็ต้องพิจารณาให้เป็นราย ๆ ไป


เมื่อถามย้ำว่าแล้วคนที่ตั้งใจรอวัคซีนไฟเซอร์ตัวเดียวเลยจะทำอย่างไร นพ.สุระ กล่าวว่า อันนี้ก็ดูยากนิดหน่อย เราก็จะพิจารณาตามเหตุผลหากเพียงพอ เช่น ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีสายพันธุ์ระบาดต้องการฉีดไฟเซอร์เพื่อกระตุ้นภูมิก็อาจจะพิจารณาให้ เช่น ในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ทางภาคใต้


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/AdWTP6B6woM

คุณอาจสนใจ

Related News