กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลังมีเอกสารหลุดกรมสารบรรณทหาร ขอจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาจากสภากาดชาดไทย ล่าสุด ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นยังไม่พูดชัดเจนว่าเป็นเอกสารปลอม แต่บอกว่าเป็นลักษณะไม่ใช่หนังสือราชการ ที่ส่งไปยังหน่วยงานภายนอก

หนังสือด่วน ที่ถูกแชร์จำนวนมากในโซเชียลมีเดีย อ้างว่าเป็นกองพิธีการ กรมสารบรรณทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เรื่อง ขอรับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 ที่ส่งถึง เลขาธิการสภากาชาดไทย โดยระบุเนื้อหาว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด

ซึ่งปัจจุบันเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์เป็นหลายสายพันธุ์ ส่งผลให้มีรายงานการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ในการนี้ กองพิธีการ กรมสารบรรณทหาร ซึ่งปฎิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว จึงขอรับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา จากสภากาชาดไทย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคให้กับกำลังพลและครอบครัว ลงวันที่ 19 ก.ค.2564

ภายหลังหนังสือนี้ออกมา ก็ถูกกระแสวิพาก์วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ก็มีการออกมาโต้แย้ง ว่าอาจเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ เพราะในหนังสือภายนอกของกองทัพไทยไปถึงหน่วยงานอื่น ผู้มีอำนาจลงนามต้องผู้บังคับหน่วยระดับเจ้ากรมขึ้นไป แต่เอกสารนี้เป็นเพียงระดับผู้อำนวยการกองเซ็นเท่านั้น

ประเด็นนี้จึงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ โดย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการกกต. ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เสนอแนวทางเพื่อขอความชัดเจนจากหน่วยงาน คือ 1.หากยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม ควรเป็นเจ้าของหน่วยงาน ผู้ลงนามในเอกสาร หรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่า / 2.เปิดหลักฐานเลขที่ หนังสือ ในระบบสารบรรณ ว่าเลขดังกล่าวเป็นหนังสือเรื่องใด ส่งถึงใคร เป็นเรื่องเดียวกันหรือคนละเรื่อง / 3.ให้สื่อตรวจสอบปลายทางไปยังสภากาดชาดไทย ว่ามีจดหมายฉบับนี้ส่งมาถึงหรือไม่ และ 4.ขอเป็นไปได้ด้วยความโปร่งใส โดยให้สื่อมวลชนร่วมตรวจสอบ

ล่าสุดความคืบหน้าเรื่องนี้ มีการเปิดเผยจาก พลตรีธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย บอกว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวีสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และให้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยทันที เบื้องต้นหนังสือราชการดังกล่าวนั้น "ไม่ใช่ลักษณะหนังสือราชการที่ส่งไปหน่วยงานภายนอก และหากสอบสวนหาข้อเท็จจริงในวันนี้ จะได้ชี้แจงให้สังคมได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงต่อไป