เลือกตั้งและการเมือง

เอกสารหลุด 'บิ๊กโจ๊ก' ค้านการปฏิบัติหน้าที่ 'กรรมการป.ป.ช.' แฉเคยพาไปพบ 'นายพล ป.' ช่วยวิ่งเต้น

โดย passamon_a

22 เม.ย. 2567

59 views

เอกสารหลุดว่อนโซเชียล บิ๊กโจ๊ก คัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ กรรมการ ป.ป.ช. แฉพฤติกรรมไม่เหมาะสม เคยพาไปพบ นายพล ป. วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่ง จี้ส่งรัฐสภาตรวจสอบคุณสมบัติ ยกชื่อบิ๊กการเมือง รู้เรื่องนี้ดี


ด้าน นิวัติไชย เลขาฯ ป.ป.ช. เผยมีเอกสารของบิ๊กโจ๊ก มาถึง ป.ป.ช.จริง แต่ไม่ยืนยันเป็นเอกสารฉบับเดียวกันหรือไม่ จ่อชงกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เรียกบิ๊กโจ๊กให้ข้อมูลเพิ่ม



เมื่อวันที่ 21 เม.ย.67 มีการเผยแพร่เอกสาร 4 หน้ากระดาษ ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสม ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ท่านหนึ่ง ลงวันที่ 17 เมษายน 2567


โดยร่างเอกสารฉบับดังกล่าว จัดทำขึ้นก่อนมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว โดยเนื้อหามีใจความว่า เมื่อช่วงปลายปี 2562 ซึ่งมีการสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีรุ่นพี่หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 58 (วปอ.58) ขอความช่วยเหลือเพื่อให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พาเข้าพบ นายพล ป. เพื่อให้สนับสนุนให้ได้รับการคัดเลือกเป็น กรรมการ ป.ป.ช. เพราะเห็นว่าคุณสมบัติของตัวเองนั้นด้อยกว่าคนอื่นมาก


ซึ่งในตอนนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ทราบว่า นายพล ป. จะช่วยเหลือหรือไม่ แต่ก็ได้พาเข้าไปพบ ซึ่ง นายพล ป. ก็ไม่รับปาก บอกเพียงแค่ว่าให้ไปสมัครมา กระทั่งปลายเดือน ม.ค.2563 รุ่นพี่ วปอ. ก็ได้รับเลือกให้เป็น กรรมการ ป.ป.ช. จึงมีการติดต่อกับมาหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้พาเข้าพบ นายพล ป. อีกครั้ง เพื่อขอบคุณ ก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะพาเข้าพบ นายพล ป. อีกครั้ง โดยเขาพูดคุยกับ นายพล ป. ว่า พร้อมรับใช้ มีอะไรให้สั่งผ่าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เลย


ระหว่างรอโปรดเกล้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้พารุ่นพี่ วปอ.คนดังกล่าวไปพบกับ ที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่ง (ในขณะนั้น) เพื่อให้รู้จักกัน จะได้ช่วยแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งที่ปรึกษาคนนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า รู้จักเพราะเคยไปให้ถ้อยคำในคดีไบโอเมตริกซ์


ต่อมาเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งแล้ว ประมาณปี 2564 ก็ได้นัดพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อีก เพื่อแจ้งให้ทราบว่า เขาถูกร้องเรียนและกล่าวหา โดยที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. (ที่พาไปแนะนำให้รู้จักในตอนนั้น) เป็นคนร้องเรียน จึงต้องการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จัดการให้ เพื่อให้หยุดร้องเรียน แต่เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สอบถามไปยังที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว กลับบอกว่า ไม่ได้เป็นคนดำเนินการและไม่ทราบเรื่อง เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทรไปแจ้งกรรมการ ป.ป.ช. (รุ่นพี่ วปอ.) กลับไม่เชื่อ อ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สนิทสนมกัน และต่อว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์


ต่อมา ธ.ค.2564 กรรมการ ป.ป.ช. (รุ่นพี่ วปอ.) ได้นัดเจอกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อีกครั้งที่คลับเฮาส์ สโมสรราชพฤกษ์ พร้อมกับแจ้งว่า ยังมีการร้องเรียนตนเองอยู่ต่อเนื่อง และแจ้งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปหยุดการร้องเรียนดังกล่าว และอ้างว่าจะช่วยเหลือคดีใน ป.ป.ช. ของ นายพล ป. แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แจ้งว่าไม่มีหลักฐานว่าที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. เป็นคนทำ จะไปหยุดได้อย่างไร ทำให้กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว (รุ่นพี่ วปอ.) ไม่พอใจ พร้อมกับพูดจาในลักษณะข่มขู่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า "พี่โจ๊ก อย่ามีเรื่องมาพึ่งผมบ้างก็แล้วกัน"


ต่อมา ประมาณ มี.ค.2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของ กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว และยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ โดยคิดว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่เบื้องหลัง จึงได้ติดต่อมายัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมกับพูดทำนองว่า "อย่าให้มีเรื่องกล่าวหาพี่มาถึงผมนะ ผมฟันไม่เลี้ยง"


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุในหนังสือเพิ่มเติมว่า เป็นที่ชัดแจ้งว่ากรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว มีความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างชัดแจ้ง จึงขอยื่นคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของ กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว เกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องกล่าวหา และคดีในกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และคณะตำรวจ ที่ถูกกล่าวหา ทุกเรื่อง เนื่องจากเห็นว่า กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว มีสาเหตุโกรธเคืองกันโดยตรง


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุในรายงานว่า กรณีที่เคยปรากฏว่า ตนรู้จักกรรมการ ป.ป.ช. อีกรายหนึ่ง สามารถช่วยเหลือทางคดีได้นั้น ตนไม่เคยพูดคุยกับกรรมการ ป.ป.ช.รายดังกล่าว แม้แต่ครั้งเดียว ส่วนพฤติกรรมของ กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ขณะรับตำแหน่ง เป็นบุคคลที่มีประวัติและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ กรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่ โดยขอให้ทาง ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปยังประธานรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาตรวจสอบตามที่กรรมการ ป.ป.ช.มีข้อมูลทั้งหมด เพื่อเป็นไปตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ต่อไป


พร้อมกันนี้ เพื่อสนับสนุนข้อเท็จจริงข้างตน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ขออ้างพยานบุคคล เป็นบิ๊กการเมืองท่านหนึ่ง และสุภาพสตรีรายหนึ่ง ที่อำนวยความสะดวกเปิดห้องให้ตนได้พบและพูดคุยกับ ป.ป.ช.รายนี้ ก่อนที่ตนจะพาไปพบผู้ใหญ่การเมืองข้างต้น ในการสนับสนุนให้มาเป็น ป.ป.ช.


ทีมข่าวสอบถามไปยัง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงเอกสารดังกล่าวว่า มีเอกสารของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาถึง ป.ป.ช.จริง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นเอกสารฉบับเดียวกันหรือไม่ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะนำเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา เนื่องจากเป็นการคัดค้านกรรมการ ป.ป.ช.


นายนิวัติไชย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ จะพิจารณาว่ามีข้อเท็จจริงหรือไม่ และเป็นอย่างไร อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ เหตุของการคัดค้านเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ รวมถึงการพิจารณาในข้อกฎหมาย หากหนังสือคัดค้านที่ส่งมายัง ป.ป.ช.ยังไม่ชัดเจน อาจจะต้องเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาสอบถามว่า คัดค้านไม่ให้ดำเนินการในเรื่องใด หรือทุกเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าไปเกี่ยวข้อง และอ้างพยานหลักฐานอะไร ส่วนคำคัดค้านจะมีน้ำหนักหรือไม่ขึ้นอยู่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเป็นผู้พิจารณา


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/OwRimJrU_bk

คุณอาจสนใจ

Related News